ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ศึกหนักรัฐบาล “ตัดงบ3.5 หมื่นล้าน” ผิดรธน.144 รีเซ็ตครม.ยกชุด

การเมือง
28 เม.ย. 68
17:45
5
Logo Thai PBS
ศึกหนักรัฐบาล “ตัดงบ3.5 หมื่นล้าน” ผิดรธน.144 รีเซ็ตครม.ยกชุด

ศึกหนักรัฐบาล หากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พิจารณารับเรื่องของกลุ่มภาคประชาชน นำโดย นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีตสส.พรรคประชาธิปัตย์ , นายสมชาย แสวงการ อดีตสว.,นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา นักเคลื่อนไหว และร.ศ.ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก อดีตที่ปรึกษากรรมการยกร่างรัฐธรรม นูญ ขอให้ตรวจสอบการกระทำผิดฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญมาตรา 144 ที่บัญญัติไว้ในการพิจารณาร่างพ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประ จำปี 2568 หลังครม.มีมติตัดงบประมาณ 35,000 ล้านบาท ที่มีการให้ไปกู้ตามมาตรา 28

และต้องชดใช้ดอกเบี้ยพร้อมเงินกู้ ทั้งที่ตามรัฐธรรมนูญบัญญัติว่า ห้ามมิให้แตะต้องเงินงบประมาณดังกล่าว โดยขอให้ปปช.ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยถอดถอนคณะรัฐมนตรี(ครม.) ในยุค “เศรษฐา ทวีสิน” และ “แพทองธาร ชินวัตร” โดยแถมพ่วงไปยัง สส.- สว.ชุดปัจจุบัน ทำผิดปรับงบ 68 ส่วนใช้หนี้มาแจกเงินหมื่น พร้อมให้ชดใช้เงินใน 20 ปี

และหากป.ป.ช. ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา ในประเด็นนี้ ถือเป็นเรื่องใหญ่และศึกหนักของรัฐบาล เพราะหมายความว่ามีความเป็นไปได้ที่ครม.ของชุดนายเศรษฐาและน.ส.แพทองธาร อาจจะถูกรีเซ็ตยกชุด

ดร.เจษฎ์ บอกกับ “ไทยพีบีเอส ออนไลน์ว่า จุดประสงค์หลักของการยื่นครั้งนี้ ต้องการให้เกิดการระงับยับยั้งการแจกเงินในเฟสที่ 3 ของรัฐบาล หากศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาแล้วเห็นว่า สามารถดำเนินการได้ รัฐบาลก็ทำต่อไป แต่ถ้าศาลชี้ว่า ทำไม่ได้ รัฐบาลก็ต้องสิ้นสภาพ โดยครอบคลุมตั้งแต่ครม.ทั้งสองชุดทั้งของนายเศรษฐาและน.ส.แพทองธาร ชินวัตร รวมถึงสว.และสส.ด้วย

เรื่องนี้ คงไม่เร็ว แต่ถ้าปปช.รับไว้พิจารณาแล้ว และเห็นว่ามีมูล ก็สามารถยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ คาดว่า ในส่วนของป.ป ช.น่าดำเนินการได้ในเวลาไม่เกิน 2 เดือน ในส่วนของศาลรัฐธรรมนูญหลังจากรับเรื่องจากป.ป.ช แล้ว ศาลจะมีเวลา 15 วัน

อดีตที่ปรึกษากรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า ความผิดแยกเป็น 2 ประ เด็น คือ การใช้งบประมาณที่ผิด คือ การนำเงินงบประมาณจำนวน35,000 ล้านบาท ที่ปรับลดมาแล้วไปเป็นงบกลางเพื่อใช้จ่ายในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัล วอลเล็ต และการที่ สส.จำนวน 309 คน และสว.จำนวน 175 คน ที่ร่วมโหวตผ่านงบประมาณปี 2568 ในวาระ 2 และวาระ 3

รวมถึงคณะกรรมาธิการงบประมาณปี 2568 จำนวน 72 คน ร่วมการกระทำ ความผิดการแปรญัตติงบประมาณในชั้นกรรมาธิการ โดยนำเงินจากงบกลาง จำนวน 1256 ล้านบาท มาเพิ่มให้กองทุนเพื่อผู้ที่เคยเป็นสมาชิกรัฐสภาด้วย ซึ่งรัฐธรรมนูญมาตรา 144 ห้ามไม่ให้ไปตัดงบประมาณ เกี่ยวกับเรื่องของการให้เงินกู้ที่กฎหมายมีการบังคับเอาไว้

“รัฐธรรมนูญปี 2560 ระบุไว้ชัดเจน หากครม.รู้ว่ามีการกระทำดังกล่าว แต่ไม่ระงับยับยั้งก็ให้ถอดถอนครม.ทั้งคณะ และเป็นครั้งแรกที่ให้อำนาจ ป.ป.ช.ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อถอดถอนครม. สส. และสว. หากเห็นว่าเรื่องดังกล่าวมีมูล และให้เรียกเก็บเงินทั้งหมดคืนแก่แผ่นดินภายใน 20 ปี”

อย่างไรก็ตาม การยื่นเรื่องต่อป.ป.ช.ถือเป็นการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎ หมาย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเสียหายไปมากกว่านี้ หากป.ป.ช.เห็นว่าเรื่องนี้มูลมูลควรเร่งดำเนินการส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จ ก่อนการพิจารณางบประมาณปี 2569

ควรต้องเร่งดำเนินการให้เสร็จก่อนที่ โครงการแจกเงินดิจิตอลวอลเล็ตจะเกิดขึ้นในเฟสที่ 3 เพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศเสียหายมากไปกว่านี้

ส่วนช่องทางอื่นที่เร็วกว่านี้ ดร.เจษฎ์ กล่าวว่า ขณะนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กำลังจะยื่นเรื่องดังกล่าวผ่านสส.และสว.ให้พิจารณา หากพบว่ามีมูลและข้อเท็จจริง ก็จะได้ยื่นเรื่องส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) แต่สุดท้ายแล้วขึ้นอยู่กับว่า ทั้งหมดจะเห็นประเด็นความเสียหายที่เกิดขึ้นหรือไม่

นอกจากนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์อาจมีการพบกับพรรคประชาชน และชี้ประเด็นให้รับทราบในเรื่องดังกล่าว แต่ในส่วนนี้ไม่อยากคาดหวังว่า เขาจะเอาด้วยหรือไม่ เพราะไม่มีใครทราบความสัมพันธ์ที่แท้จริงระหว่างพรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทยว่ามีข้อตกลงอื่นใดกันหรือไม่ จึงเป็นหน้าที่ของภาคประชาชนต้องเฝ้าระวัง

อย่างไรก็ตาม หากทางป.ป.ช.ไม่ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญก็จะมาพิจารณาอีกครั้ง ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ดร.เจษฎฺ์ บอกว่า อยากให้เรื่องนี้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน และไม่ต้องการให้ยืดเยื้อไปมากกว่านี้ เนื่องจากจะมีการพิจารณางบประมาณใหม่ภายในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า เพราะหากมีความเสียหายเกิดขึ้น โดยมีการแจกเงินไปแล้ว การจะเรียกกลับคืน เป็นเรื่องยากและต้องใช้เวลาอีกนาน

ศึกหนักรัฐบาล และองค์กรอิสระ ไม่ว่าจะเป็น ป.ป.ช.และศาลรัฐธรรม นูญ หลังจากภาคประชาชน แท๊กทีมเข้ายื่นเรื่องดังกล่าวแล้ว จะมีความเคลื่อนไหวเกิดขึ้นอย่างไร น่าจับตาอย่างยิ่ง

อ่านข่าว:

กระชับพื้นที่ “อั้งยี่-ฟอกเงิน” ดีเอสไอ เปิดเกมไล่บี้ “สว.สีน้ำเงิน”

"ไชยชนก" ลูกพ่อเนวิน "ค้านกาสิโน" ผิดคิว หรือปิด "ดีล" ไม่ลงตัว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง