คาดพายุขึ้นฝั่งในไทย 25 ก.ย.นี้ เตรียมรับมือน้ำท่วมซ้ำ

สังคม
23 ก.ย. 54
02:01
14
Logo Thai PBS
คาดพายุขึ้นฝั่งในไทย 25 ก.ย.นี้ เตรียมรับมือน้ำท่วมซ้ำ

ในระยะนี้ยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องประกอบกับการผันน้ำออกจากเขื่อนที่มีปริมาณน้ำสูงมาก และ บางแห่งน้ำเต็มความจุอ่างแล้ว ทำให้สถานการณ์อุทกภัยเกือบทุกพื้นที่ของภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง จะอยู่ในภาวะวิกฤตต่อไปอีก และยังมีจังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์เป็นพิเศษ เนื่องจากมีรายงานว่า จะมีพายุขึ้นฝั่งในประเทศไทยวันที่ 25 ก.ย.นี้ด้วย

กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่า ในระยะนี้จะยังมีฝนตกทั่วไปและตกหนักในบางพื้นที่ ซึ่งจะต้องเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัย ที่ลาดเชิงเขา เส้นทางน้ำไหลผ่าน ที่อาจต้องเผชิญกับน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก รวมถึงดินโคลนถล่มได้ในระยะนี้

ขณะที่สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตรและศูนย์วิจัยภัยธรรมชาติ มหาวิทยาลัยรังสิต ให้ข้อมูลตรงกันว่า ขณะนี้มีพายุกำลังก่อตัวในทะเลจีนใต้ถึง 2 ลูก โดยจากการดูแบบจำลองสภาพอากาศของสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร แสดงให้เห็นถึงภาพการก่อตัวของพายุ ซึ่งสีแดงหมายถึงพื้นที่ที่จะมีฝนตกหนักมาก คาดว่าในคืนวันพรุ่งนี้ (24 ก.ย.) พายุจะขึ้นฝั่งที่ประเทศเวียดนาม และประเทศไทยจะเริ่มได้รับผลกระทบด้วย และจากนั้นพายุจะพัดเข้าสู่ประเทศไทยในวันที่ 25 ก.ย.ทางด้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคเหนือตอนล่าง และ ภาคกลางตอนบน ซึ่งคาดว่า จะส่งผลกระทบต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 28 ก.ย.นี้

ส่วนสถานการณ์น้ำในขณะนี้แทบทุกพื้นที่ยังต้องเร่งระบายน้ำออกจากเขื่อนที่มีปริมาณน้ำสูง โดยที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งมีปริมาณน้ำมากกว่าความจุอ่าง เป็นอีกจุดหนึ่งที่ถือว่าเข้าสู่ภาวะวิกฤตแล้ว และต้องเร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำป่าสัก ในปริมาณที่เพิ่มมากขึ้น โดยกรมชลประทานคาดว่า พื้นที่ท้ายเขื่อนจะได้รับผลกระทบมากขึ้นอีก

เบื้องต้นจังหวัดลพบุรีซึ่งเป็นจังหวัดรองรับน้ำ ขณะนี้ประชาชนริมฝั่งน้ำต้องอพยพขึ้นมาอยู่บนถนน และมีคำเตือนต่อเนื่องไปถึงการเดินทางสัญจรไปมา ที่ขณะนี้ต้องใช้เรือเป็นพาหนะว่าให้ระมัดระวังการเดินทาง เนื่องจากกระแสน้ำไหลแรงกว่าปกติ จึงเตือนให้ผู้ที่ต้องสัญจรทางน้ำสวมเสื้อชูชีพ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยเมื่อวานนี้ ( 22 ก.ย.) คณะของผู้สื่อข่าวที่เดินทางไปพร้อมคณะของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประสบอุบัติเหตุเรือล่มโชคดีที่ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต

สำหรับน้ำที่ผันลงมายังแม่น้ำป่าสักนั้นกรมชลประทานคาดว่า จะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อ อำเภอท่าเรือ ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ จึงมีคำเตือนให้ประชาชนเฝ้าระวังสถานการณ์ในวันนี้ไว้ด้วย

สำหรับพื้นที่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นพื้นที่ที่มีวัดจำนวนมาก ทำให้ขณะนี้พระภิกษุและสามเณรได้รับผลกระทบอย่างหนักแล้ว โดยที่วัดราษฎร์บำเพ็ญ ตำบลบ่อโพรง อำเภอนครหลวง พระต้องช่วยกันเร่งนำเรือมาซ่อมแซม เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำในแม่น้ำป่าสักที่กำลังเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง

ส่วนที่วัดสามประชุม อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง ชาวบ้านต้องจัดพิธีฌาปนกิจให้กับญาติ ท่ามกลางน้ำที่ท่วมสูงเกือบ 50 เซนติเมตร ส่วนสถานการณ์น้ำขณะนี้แม้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะยังทรงตัวแต่มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น ขณะที่น้ำในแม่น้ำน้อย ยังคงทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนในพื้นที่ อำเภอโพธิ์ทอง อำเภอไชโย และ อำเภอวิเศษชัยชาญ บางจุดสูงกว่า 2 เมตร

ขณะที่อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท จุดรองรับน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา ขณะนี้ได้รับผลกระทบจากการผันน้ำ โดยพื้นที่อำเภอสรรพยา ถูกน้ำท่วมเกือบทุกหมู่บ้านแล้ว และชาวบ้านต้องอพยพไปพักยังสถานที่ราชการต่าง ๆ รวมถึงชาวบ้านบางส่วนต้องพักอาศัยอยู่บนเรือ เป็นเวลานับสัปดาห์แล้ว

ขณะที่จังหวัดสิงห์บุรีประตูระบายน้ำบางโฉมศรีแตก ทำให้น้ำไหลเป็นจำนวนมากและกัดเซาะคอสะพาน ถนนทางหลวงหมายเลข 11 สายอินทร์บุรี - ตากฟ้า หลักกิโลเมตรที่ 5 ตำบลทองเอน อำเภออินทร์บุรี ทำให้คอสะพานชำรุด ซึ่งขณะนี้ได้ปิดถนนเส้นดังกล่าว เพื่อความปลอดภัยแล้ว และอยู่ระหว่างการเตรียมการสร้างสะพานเหล็กเสริมขึ้นมาอีกขั้นหนึ่ง หากทำสะพานแล้วเสร็จจะได้แจ้งให้ทราบว่าสามารถสัญจรได้เมื่อใด
 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง