อุตุฯ เตือนรับมือน้ำระลอกใหม่จากพายุไห่ถาง

สังคม
26 ก.ย. 54
01:43
12
Logo Thai PBS
อุตุฯ เตือนรับมือน้ำระลอกใหม่จากพายุไห่ถาง

กรมชลประทานยังคงเร่งระบายน้ำออกจากเขื่อนที่มีปริมาณน้ำอยู่ในระดับวิกฤต เพื่อรองรับผลกระทบจากฝนที่จะตกหนักรอบใหม่ ขณะที่กรมอุตุฯ เตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เตรียมรับมือกับฝนที่จะตกหนัก

ภาพแผนที่ทางอากาศแสดงให้เห็นว่า หย่อมความกดอากาศต่ำ บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ที่ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน "ไห่ถาง" กำลังเคลื่อนตัวออกนอกชายฝั่งประเทศเวียดนามอย่างช้าๆ ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า พายุนี้จะส่งกระทบให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้นในช่วงบ่ายวันนี้ (26 ก.ย.) ประกอบกับยังคงมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของประเทศไทย ขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ก็มีกำลังค่อนข้างแรง ส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน มีฝนตกหนักได้ในบางพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดระยอง จังหวัดจันทบุรี จังหวัดตราด และจังหวัดระนอง จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขา ที่ราบลุ่ม และใกล้ทางน้ำไหลผ่าน ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่จะเกิดขึ้นได้ในระยะนี้
 
ขณะที่ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน รายงานสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา เวลา 06.00 น.วานนี้ (25 ก.ย.) ที่จังหวัดนครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 4,236 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้นจากวันก่อน 36 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท อยู่ที่ 3,703 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
 
ขณะที่ฝนที่ตกหนักบริเวณต้นแม่น้ำป่าสักในเขตจังหวัดเพชรบูรณ์และจังหวัดลพบุรีส่งผลให้มีปริมาณน้ำจำนวนมากไหลลงสู่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งปัจจุบันมีปริมาณน้ำเต็มความจุของอ่างเก็บน้ำแล้ว ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์ว่า ช่วงต้นสัปดาห์นี้จะมีฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์และจังหวัดลพบุรี ซึ่งจะทำให้มีปริมาณน้ำไหลลงสู่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย
 
กรมชลประทานจึงมีความจำเป็นต้องพร่องน้ำบางส่วนออกจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เพื่อให้มีพื้นที่รองรับน้ำที่จะไหลหลากลงมาอีกในช่วงต้นสัปดาห์นี้ โดยมีการระบายน้ำเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 701 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 801 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งเมื่อรวมกับน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาแล้ว ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านอำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 3,170 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้นจากเดิม 82 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
 
ลักษณะดังกล่าวนี้จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักตั้งแต่ท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ลงมา ในเขตจังหวัดสระบุรีและจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพิ่มสูงขึ้นจากระดับปัจจุบันประมาณ 60-80 เซนติเมตร
 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง