นายสัก กอแสงเรือง นายกสภาทนายความออกแถลงการณ์ 7 ข้อคัดค้านการเสนอลบล้างผลพวงของรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ของกลุ่มอาจารย์ในนามคณะนิติราษฎร์ โดยตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการเสนอเพื่อเป็นประโยชน์ต่ออดีตนักการเมือง และ แม้ว่าสภาทนายความจะไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร แต่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลที่ใช้อำนาจเผด็จการรัฐสภา และ อำนาจบริหาร ครอบงำสื่อมวลชนองค์กรอิสระจนทำให้การตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐไม่บรรลุผล
ส่วนเจตนารมณ์ในการออกแถลงการณ์คัดค้านครั้งนี้นายสัก กล่าวย้ำว่า ทำเพื่อให้ประชาชนรู้กฏหมายเท่าทันกลไกนักการเมืองและนักวิชาการ ซึ่งประเด็นการนำเสนอของคณะนิติราษฎร์อาจทำให้ประชาชนที่ไม่ทราบข้อเท็จจริงในระบบประชาธิปไตย โดยต้องการให้ติดตามตรวจสอบพฤติการณ์ของคณะนิติราษฎร์อย่างใกล้ชิดต่อไป
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของคณะนิติราษฎร์ว่า ต้องการให้สังคมเป็นผู้ติดตาม และ ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยการกระทำใด ๆ ต้องไม่ละเมิดหลักกฎหมาย
นายกล้าณรงค์ จันทิก โฆษกคณะะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. แถลงต่อกรณีที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่ฎีกาคดีเลี่ยงภาษีหุ้นบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น ว่า ในส่วนของ ป.ป.ช.ไม่สามารถดำเนินการยื่นร้องต่อเรื่องนี้ได้เนื่องจากคดีนี้ถือว่าได้ยุติไปแล้วจากการที่อัยการไม่ยื่นฎีกา แต่กรณีที่ทีมกฏหมายพรรคประชาธิปัตย์เตรียมร้องเรียนการทำหน้าที่ของอัยการนั้น ทาง ป.ป.ช.ยังไม่ได้รับเรื่องแต่อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานอยู่ด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ยังมีมีมติให้รวบรวมหลักฐานเพื่อตรวจสอบโครงการติดตั้งกล้องวงจรปิดกรุงเทพมหานคร หลังพิจารณาแล้วเห็นว่า มีเหตุน่าสงสัยว่าโครงการดังกล่าวมีการทุจริตจริง