ชาวนาสิงห์บุรี-อ่างทอง ร้องรัฐจ่ายเงินเยียวยาความเสียหายจากคำสั่งให้หยุดสูบน้ำเข้านา
ร.ต.อนันท์ สกุลกลาง หัวหน้าชุดประสานงานกองพันที่ 6 ซึ่งลงพื้นที่พูดคุยกับชาวบ้านในจ.สิงห์บุรี กล่าวว่าชาวนาส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือดี แต่บางส่วนตั้งคำถามว่าเหตุใดก่อนหน้านี้รัฐบาลจึงให้พวกตนปลูกข้าวได้ แต่มาตอนนี้มีคำสั่งห้ามสูบน้ำเข้านา
"เราเห็นใจชาวนาจริงๆ แต่ภัยแล้งที่เกิดขึ้นทำให้เราต้องสำรองน้ำเพื่อการอุปโภคอุปโภคเป็นอันดับแรก" ร.ต.อนันท์กล่าว
นายสุพจน์ ผมทอง อบต.องครักษ์ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง กล่าวว่ารัฐบาลควรมีมาตรการชดใช้เยียวยาให้เหมาะสมกับเงินที่ชาวนาลงทุนไปในการปลูกข้าว ซึ่งต้นทุนการทำนาของเกษตรอยู่ที่ 4,500 บาทต่อไปเป็นอย่างต่ำ ตนอยากให้รัฐบาลให้ชาวนาทั่วประเทศ
"ชาวนามีความยากลำบากมาก นอกจากจะสู้กับปัญหาภัยแล้ง ยังต้องสู้กับปัญหาราคาข้าวและปัญหาอื่นๆ แล้วยังต้องมาขาดทุนในครั้งนี้อีก"
นอกจากผลกระทบต่อชาวนาแล้ว ภาวะภัยแล้งที่เกิดขึ้นยังกระทบต่อสิ่งปลูกสร้างตลอดริมฝั่งแม่น้ำน้อยซึ่งเกิดการทรุดตัว บ้านเรือนและอาคารริมตลิ่งแม่น้ำน้อย ใน ต.พิกุลทอง อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี บางส่วนเกิดการแตกร้าว ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเกิดจากระดับน้ำที่ลดลงในช่วงหน้าแล้งทำให้ตลิ่งทรุดตัวจนส่งผลถึงตัวบ้าน และเมื่อคณะรัมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 14 ก.ค.2558 ให้ลดการระบายน้ำจากเขื่อนหลัก 4 แห่งในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ชาวบ้านที่อยู่ริมน้ำยิ่งกังวลว่าตลิ่งจะทรุดตัวเพิ่มอีก