ชาวบ้านริมตลิ่งแม่น้ำปิงหวั่นบ้านทรุด-เร่งรื้อบ้านหนี

ชาวบ้านหัวข่วง ตำบลสองแคว อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ ที่อาศัยอยู่ติดกับแม่น้ำปิง ต้องรื้อบ้านออก เนื่องจากน้ำในแม่น้ำปิงเพิ่มสูงขึ้นและกัดเซาะตลิ่งยาว 500 เมตร หากปริมาณน้ำยังคงเพิ่มสูง คาดว่าชาวบ้านต้องรื้อบ้านเพิ่มอีกหลายหลัง ส่วนในพื้นที่ตำบลสบเตี๊ยะ อำเภอจอมทอง น้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง หลังมีฝนตกหนักในพื้นที่ประกอบกับฝายชะลอน้ำขาดหลายแห่ง

 

เช่นเดียวกับชาวบ้านท่าข้ามตำบลพรหมพิราม อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก ต้องพายเรือเข้ามาตรวจข้าวของที่ทิ้งไว้ภายในบ้าน เพราะนอกจากถูกน้ำท่วมสูงแล้ว ยังมีพายุฝนพัดทำให้คลื่นขนาดใหญ่ซัดเข้าตัวบ้านจนหน้าต่างและฝาบ้านพัง ล่าสุดน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นและต้องเฝ้าระวังตลอดเวลา

 

ส่วนที่จังหวัดอุดรธานี อิทธิพลของพายุเนสาดส่งผลให้เกิดฝนตกอย่างหนักในเขตเทศบาลนครอุดรธานี ถนนบางจุดถูกน้ำท่วมสูงกว่า 50 เซนติเมตร รถเล็กสัญจรไปมาด้วยความยากลำบาก ขณะที่เทศบาลเร่งสูบน้ำที่ท่วมขังลงสู่ลำห้วยต่างๆ ในเขตรอบนอกเทศบาล เพื่อป้องกันน้ำท่วมในย่านใจกลางเศรษฐกิจ

 

ด้านองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุบลราชธานี เร่งผันน้ำจากแม่น้ำมูล บริเวณแก่งตะนะ อำเภอสิรินธร ลงสู่แม่น้ำโขง เพื่อช่วยลดระดับน้ำที่ท่วมขังพื้นที่ราบลุ่มในเขตอำเภอเมือง, อำเภอวารินชำราบ และอำเภอตาลสุม และยังเป็นการเตรียมรับมือกับมวลน้ำเหนือจากจังหวัดขอนแก่นที่คาดว่าจะไหลบ่ามาสมทบในอีก 2 สัปดาห์

 

ส่วนฝนที่ตกอย่างต่อเนื่องส่งผลให้อ่างเก็บน้ำ 10 แห่งจากทั้งหมด 17 แห่งในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม มีปริมาณน้ำสูงเกินกว่าระดับกักเก็บปกติ เจ้าหน้าที่ต้องเร่งระบายน้ำ โดยเฉพาะอ่างเลิงจาน ลงสู่แม่น้ำชี เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม

 

เช่นเดียวกับสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำที่สำคัญ 4 แห่งในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งขณะนี้ทั้งหมดมีปริมาณน้ำกักเก็บเกินร้อยละ 93 ของความจุอ่าง ขณะที่จังหวัดนครราชสีมาได้ประกาศให้พื้นที่อีก 12 อำเภอ รวมทั้งหมด 18 อำเภอ เป็นพื้นที่ภัยพิบัติจากเหตุอุทกภัย เพื่อเร่งจัดสรรงบประมาณช่วยเหลือชาวบ้าน
 

สถานการณ์อุทกภัยจังหวัดปราจีนบุรีมีพื้นที่ประสบอุทกภัย จำนวน 7 อำเภอ 62 ตำบล 685 หมู่บ้าน 22 ชุมชน ผู้ได้รับความเดือดร้อน 11,067 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 51,358 ไร่ ส่วนอำเภอบ้านสร้าง ระดับน้ำเพิ่มขึ้น และสูงกว่าระดับวิกฤต 0.78 เมตร ทำให้ถนนที่เชื่อมต่อกับตัวจังหวัดปราจีนบุรีและจังหวัดฉะเชิงเทราถูกกระแสน้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรที่ตั้งอยู่บริเวณ 2 ฝั่งแม่น้ำ ชาวบ้านต้องเร่งเก็บข้าวของมากางเต็นท์พักอาศัยอยู่ริมถนน

 

ส่วนในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ชาวบ้านในชุมชนวัดศาลาแดงเหนือ ตำบลบ้านงิ้ว อำเภอสามโคก กว่า 100 หลังคาเรือน ต้องพายเรือออกมารับถุงยังชีพที่ทางจังหวัดนำมาแจก เนื่องจากระดับน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร สร้างความลำบากให้กับชาวบ้านมาก เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ