นายกฯกำชับเร่งระบายน้ำลงทะเล ก่อนน้ำทะเลหนุน 13-18 ต.ค.นี้
ในภาวะน้ำทะเลลดต่ำสุดวันที่ 6-12 ต.ค.นี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำที่จะเร่งผลักดันน้ำในลุ่มน้ำต่าง ๆ และระบายออกสู่ทะเลโดยเร็ว หรือ ก่อนน้ำทะเลจะหนุนสูงในวันที่ 13-18 ต.ค.นี้ รวมถึงก่อนพายุลูกใหม่จะเข้ามาอีกสอดคล้องกับข้อมูลที่กำชับผ่านการประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ที่ ศปภ. สนามบินดอนเมืองว่า จะเร่งระบายน้ำออกสู่ทะเล พร้อมกันนั้นจะขุดลอกคูคลอง 5 เส้นทาง โดยส่วนใหญ่เป็นเส้นทางน้ำในจังหวัดสมุทรปราศการ ทั้งนี้ให้ความเชื่อมั่นกับสถานการณ์น้ำที่จะเข้ากรุงเทพฯว่า ยังคงรับมือได้หลังเกิดความกังวลอาจทะลักเข้าท่วมกรุงเทพฯ
และแม้จะยอมรับว่ามีความเห็นทางการเมืองจะต่างกับรัฐบาล แต่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ยืนยันที่จะหารือถึงการบริหารจัดการน้ำใน กทม.ร่วมกับรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาให้ทันท่วงที รวมถึงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม พร้อมกันนั้นกล่าวสนับสนุนการตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ. ซึ่งเป็นศูนย์การกลางการทำงานและช่วยเหลือ แต่เสนอให้ตั้ง ศปภ.ระดับจังหวัดเพื่อช่วยเสริมการทำงานของผู้ว่าราชการจังหวัดอีกด้วย
และในวันจันทร์นี้ ( 10 ต.ค.) ครม.เงา พรรคประชาธิปัตย์เรียกประชุมในวาระเร่งด่วนเพื่อพิจารณาแนวทางการแก้ไขและระดมความช่วยเหลือพื้นที่อุทกภัยตลอดจนการวางแผนเตรียมรับมือสถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคใต้ เช่นเดียวกับวุฒิสภาซึ่งการประชุมวุฒิในวันจันทร์จะมีการเสนอญัตติระดมแนวทางการแก้ไขและช่วยเหลือผู้ประสบอุทภัย เพื่อให้ ส.ว.ได้มีการอภิปรายถึงปัญหาสถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัด และ ข้อเสนอแนะให้รัฐบาล ได้เร่งนำไปปฏิบัติเป็นแผนแก้ไข รวมถึงแผนการฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย
