กรมสุขภาพจิตแนะครอบครัวดูพฤติกรรมเสี่ยงฆ่าตัวตาย
แม้ว่าประเทศไทยมีสถิติการฆ่าตัวตายอยู่ในเกณฑ์ต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าสิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นกับคนใกล้ตัว กรณีของนายประชาธิป มุสิกพงศ์ หรือ สิงห์ น่าจะสะท้อนได้ดีว่า การแสดงออกให้ผู้อื่นเห็นอยู่เบื้องหน้า อาจจะไม่ตรงกับสิ่งที่อยู่ภายใน ขณะที่กรมสุขภาพจิตแนะให้คนในครอบครัวเฝ้าสังเกตพฤติกรรมเสี่ยงฆ่าตัวตาย ป้องกันได้ก่อนสูญเสีย
บทเพลงมอเตอร์ไซค์ของวงสควีซ แอนิมอล เป็นซิงเกิลล่าสุด และซิงเกิลสุดท้ายของ ประชาธิป มุสิกพงศ์ หรือสิงห์ วัย 31 ปี บุตรชายของนายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หลังกระโดดจากชั้น 9 ของคอนโดย่านทองหล่อเสียชีวิต
นายวีระกานต์ ผู้เป็นพ่อ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุครอบครัวได้โทรศัพท์สอบถามว่ามีอะไรไม่สบายหรือไม่ ถ้ามีให้กลับบ้านมาพูดคุยกัน ซึ่งลูกชายก็พูดจาปกติและไม่มีการสั่งเสียอะไร ทำให้เชื่อว่าสาเหตุการฆ่าตัวตายของลูกชายน่าจะมาจากเรื่องส่วนตัว
สภาพเศรษฐกิจ ความสัมพันธ์กับคนใกล้ชิด โรคประจำตัวร้ายแรง และโรคทางจิตเวชเป็นปัจจัยที่รองอธิบดีกรมสุขภาพจิตอธิบายว่าคือสาเหตุสำคัญที่ทำให้คนทั่วไปคิดฆ่าตัวตาย
สำหรับสัญญาณของคนที่คิดฆ่าตัวตายอาจมีพฤติกรรมการแสดงออกที่ตรงไปตรงมา เช่น การพูดตรงๆ ว่าต้องการจะตาย หรือเก็บตัวเงียบอยู่คนเดียว ไม่ต้องการพูดคุยกับใคร และอาจทิ้งข้อความบางอย่างหรือสิ่งของที่รักไว้ให้กับคนใกล้ชิด ดังนั้น คนใกล้ชิดต้องสังเกตพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป และเข้าไปพูดคุยสอบถาม
ที่ผ่านมา กรมสุขภาพจิตได้สำรวจอัตราการคิดฆ่าตัวตายของคนไทยพบว่าในประชากร 100,000 คน จะมีคนคิดฆ่าตัวตายประมาณ 6 คน โดยในปี 2557 มีคนฆ่าตัวตายสำเร็จไปแล้วประมาณ 4,000 คน
เพื่อนๆ ศิลปินต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าที่ผ่านมาสิงห์เป็นคนยิ้มแย้มมีอัธยาศัยที่ดี แต่นั่นไม่ได้บ่งบอกถึงสิ่งที่เก็บอยู่ภายในใจ เพราะเบื้องหลังที่ไม่มีใครเห็นและรับรู้ เขาอาจเป็นคนหนึ่งที่อยู่กับตัวเองคนเดียวมาตลอด
กดถูกใจหน้าเพจ ThaiPBSNews
https://www.facebook.com/ThaiPBSNews?ref=hl