เขื่อนภูมิพลเร่งระบายน้ำเพิ่ม ท้ายเขื่อนเดือดร้อน

กลุ่มแม่บ้านตำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานี พร้อมดาราศิลปิน ต่างร่วมกันแสดงกิจกรรมสันทนาการให้กับชาวตำบลท่าซุง อำเภอเมืองอุทัยธานี ที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมทั้งตำบลเพื่อคลายความซึมเศร้าและความเครียด ก่อนจะมอบถุงยังชีพอีกกว่า 1,000 ชุดเพื่อบรรเทาความเดือนร้อน

 

สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดอุทัยธานี ล่าสุดระดับน้ำยังทรงตัว พื้นที่ตัวเมืองทั้งย่านธุรกิจและศูนย์ราชการระดับน้ำยังท่วมสูงกว่า 2 เมตร ส่วนตำบลรอบนอกที่ถูกน้ำท่วมทั้งตำบล ได้แก่ ตำบลเกาะเทโพ, ตำบลท่าซุง และตำบลสะแกกรัง โดยระดับน้ำอยู่ที่ 3-6 เมตร

 

ส่วนจังหวัดอ่างทองและจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลายพื้นที่ยังคงมีระดับน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะถนนสายหลักๆ ที่บางส่วนถูกกระแสน้ำที่ยังไหลเชี่ยวกัดเซาะไหล่ทางเสียหาย และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย ขณะที่ประชาชนในหลายพื้นที่ยังอยู่กันอย่างยากลำบาก เนื่องจากความช่วยเหลือยังเข้าไม่ถึง

 

ขณะที่ประชาชนและภาคเอกชนในจังหวัดน่าน จังหวัดเชียงราย และจังหวัดแพร่ ต่างก็ร่วมกันนำสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคเดินทางเพื่อไปแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ภาคกลาง ที่กำลังเดือดร้อนและรอความช่วยเหลือ

 

ที่เขื่อนภูมิพล อำเภอสามเงา จังหวัดตาก เจ้าหน้าที่ตัดสินใจปล่อยน้ำออกจากเขื่อนอีกครั้งเป็นวันละ 70 ล้านลูกบาศก์เมตร เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา หลังหยุดปล่อยมา 3 วัน เนื่องจากช่วงหลายวันที่ผ่านมามีฝนตกหนัก ทำให้มีน้ำไหลเข้าเขื่อนเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนเพิ่มขึ้น ผู้บริหารเขื่อนระบุว่าเป็นความจำเป็นเพราะปริมาณน้ำในเขื่อนอยู่ในขั้นวิกฤต แต่หากน้ำไหลเข้าลดลง ก็จะหยุดการปล่อยน้ำเช่นกัน

 

ด้านจังหวัดศรีสะเกษ น้ำป่าจากแนวเทือกเขาพนมดงรัก ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ไหลมาตามลำห้วยขะยูง ได้เอ่อล้นตลิ่งกัดเซาะถนนระหว่างบ้านกุดปลาขาวถึงบ้านขะยูง ตำบลน้ำอ้อม อำเภอกันทรลักษ์ จนไม่สามารถสัญจรไปมาได้ เช่นเดียวกับถนนอีกหลายสายถูกน้ำท่วมสูงกว่า 50 เซนติเมตร และไหลเชี่ยว

 

ฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องยังทำให้น้ำในลำห้วยจระเข้มากเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือน 3 หมู่บ้านในเขตเทศบาลตำบลอิสา อำเภอเมืองบุรีรัมย์ สูงกว่า 1 เมตร จนชาวบ้านต้องรีบอพยพขนย้ายข้าวของที่จำเป็นออกมาอาศัยอยู่ริมถนน

 

ขณะที่ทีมแพทย์และพยาบาลจากโรงพยาบาลของรัฐและเอกชนในจังหวัดขอนแก่นเร่งระดมยาและเวชภัณฑ์ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในเขตอำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังโรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชที่ 18 มีแพทย์และพยาบาลไม่เพียงพอ