กทม.ให้รัฐบาลสั่งกรมชลประทานเปิดประตูระบายน้ำ
หลังจากที่นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจตามมาตรา 31 ของพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยปี 2550 เพื่อบริหารจัดการน้ำ โดยสั่งให้กรุงเทพมหานครเปิดทุกประตูระบายน้ำ เพื่อช่วยระบายน้ำเหนือผ่านพื้นที่กรุงเทพมหานครลงอ่าวไทยนั้น พบว่ายังเกิดปัญหาการเข้าใจผิดในการเปิดประตูระบายน้ำระหว่างกรมชลประทานกับกรุงเทพมหานคร โดย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ยืนยันกทม.เปิดทุกประตูระบายน้ำแล้ว โดยเฉพาะช่วงที่ฝนทิ้งช่วง ประตูระบายน้ำของกทม.ยิ่งเปิดกว้างมากขึ้น เพื่อช่วยเร่งระบายน้ำเหนือ แต่ปัญหาคือประตูระบายน้ำด้านเหนือ เป็นความรับผิดชอบของกรมชลประทานไม่ปล่อยน้ำลงมา และบางแห่งไม่เปิดประตูระบายน้ำเช่น ประตูระบายน้ำคลองประเวศบุรีรมย์ และเพื่อให้การทำงานสอดคล้องกันรัฐบาลต้องสั่งกรมชลประทานให้เปิดประตูระบายน้ำ
ขณะที่ปัญหาการสร้างเสริมคันกั้นน้ำยังไม่ได้รับการแก้ไขโดยเฉพาะถนนพหลโยธินตัดคลองรังสิตประยูรศักดิ์ที่ต้องเสริมคันกั้นน้ำเพิ่มที่ชาวบ้านไม่ยอมทำให้ กทม.ไปช่วยเสริมไม่ได้ หากรัฐบาลไม่แก้ปัญหาก็ยิ่งทำให้ปริมาณน้ำคลองรังสิตไหลท่วมถนนวิภาวดีมากขึ้น ซึ่งขณะนี้น้ำถึงสนามบินดอนเมืองแล้ว ขณะเดียวกัน ปัญหาแนวคันกั้นน้ำที่เทศบาลหลักหก จังหวัดปทุมธานี และคลองประปา จะมีผลต่อคลองเปรมประชากร บริเวณสถานีตำรวจนครบาลดอนเมืองสูงถึง 1.40 เมตร และหากมีฝนตกลงมาเพิ่มก็จะยิ่งมีปัญหาต่อการป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ กทม.ชั้นใน ขณะเดียวกัน ยังพบว่ามีจุดอ่อนของถนนที่จะใช้ทำเป็นคันกั้นน้ำ กทม.ฝั่งตะวันออก คือถนนร่มเกล้า ระยะทาง 35 กิโลเมตร ซึ่งถนนทรุดตัวในบางจุด จึงต้องเร่งซ่อมแซม โดย กทม.จะร่วมกับกรมทางหลวงในการเสริมคันกั้นน้ำจากถนนสูง 3 เมตรตลอดแนว ให้เสร็จโดยเร็วที่สุด
