สื่อจีนเผยโรงงานที่เกิดเหตุระเบิดมีสารไซยาไนด์เกินกำหนด เสียชีวิตพุ่ง 114 คน
ชาวจีนจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดในเขตอุตสาหกรรมเทียนจิน รวมตัวและชูป้ายเรียกร้องความช่วยเหลือ รวมทั้งเงินชดเชยจากทางการ บริเวณหน้าโรงแรมเมย์แฟร์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ทางการใช้แถลงชี้แจงความคืบหน้าของเหตุระเบิด
เบื้องต้นทางการจีน จะให้เงินชดเชยผู้ได้รับผลกระทบ เดือนละ 300 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 9,900 บาท เพื่อเป็นค่าเช่าที่พักชั่วคราว แต่ผู้ชุมนุมยังไม่ยอมรับข้อเสนอ โดยระบุว่าเงินจำนวนดังกล่าวน้อยเกินไป
สำนักงานด้านสิ่งแวดล้อมของนครเทียนจิน แถลงผลการตรวจสอบสภาพน้ำและอากาศในพื้นที่นอกเขตอันตรายที่ทางการได้ปิดกั้นพื้นที่โดยรอบโกดังที่เกิดเหตุระเบิด พื้นที่รวม 1 ตารางกิโลเมตร ผลการตรวจสอบพบว่าคุณภาพอากาศในพื้นที่ส่วนใหญ่ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ และตรวจพบสารไฮโดรเจนไซยาไนด์ สูงกว่าระดับมาตรฐาน 0.8 เท่า ในพื้นที่เพียง 1 แห่ง ซึ่งไม่มีประชาชนอาศัยอยู่ในจุดดังกล่าว ส่วนการตรวจสอบคุณภาพน้ำจากกลุ่มตัวอย่าง 6 ชุด พบสารไฮโดรเจนไซยาไนด์สูงเกินกว่ามาตรฐาน จำนวน 2 ชุด แต่คุณภาพของสิ่งแวดล้อมยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ
ทั้งนี้ โกดังที่เกิดเหตุระเบิดเมื่อวันที่ 12 ส.ค.2558 เป็นของบริษัทเหอเป่ย เฉิงซิน ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทผลิตสารโซเดียมไซยาไนด์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศจีน นายจือ ชวินเฉิน ผู้จัดการทั่วไป ระบุว่า ในโกดังมีสารโซเดียมไซยาไนด์ประมาณ 700 ตัน โดยทั้งหมดผ่านการตรวจสอบจากศุลกากรและผ่านการอนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ หน่วยงานด้านการค้า อุตสาหกรรมหรือสิ่งแวดล้อม สำหรับเคมีดังกล่าวจะถูกส่งออกเพื่อจำหน่ายให้กับบริษัทเหมืองทองของต่างชาติ ที่ใช้สารเคมีในการสกัดทองคำ พร้อมยืนยันว่าการเก็บรักษาเป็นไปอย่างถูกต้องและบริษัทได้ส่งวิศวกรกว่า 140 คนไปช่วยกำจัดสารเคมีในเขตอุตสาหกรรมแล้ว ซึ่งทีมชุดแรกเข้าไปถึงพื้นที่เกิดเหตุหลังการระเบิดครั้งแรก 6 ชม.
ขณะที่ หนังสือพิมพ์เป่ยจิ่ง นิวส์ ระบุว่า สารโซเดียมไซยาไนด์ที่เก็บไว้ในโกดังมีปริมาณมากกว่าที่กฎหมายกำหนดถึง 27.4 เท่า ซึ่งยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดดังกล่าวยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเพิ่มเป็น 114 คน สูญหายประมาณ 70 คน