ค่าเช่าออฟฟิศในเมืองส่วนใหญ่ทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้น กรุงเทพฯ ขยับขึ้น 0.8%
ตลาดอาคารสำนักงานเกรดเอในเมืองสำคัญๆ ของโลกในไตรมาสสามของปีนี้ มีค่าเช่าปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 1.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสสอง และเพิ่มขึ้น 5.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสสามของปี 2553 โดยเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันมาเจ็ดไตรมาส โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับจุดต่ำสุดในไตรมาสสี่ปี 2552 คิดเป็นอัตราการปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 8.2% อย่างไรก็ดี แนวโน้มการปรับตัวเพิ่มขึ้นของค่าเช่าได้ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับไตรมาสสองของปีนี้ ที่มีอัตราการปรับเพิ่มขึ้น 1.6%
ในระดับภูมิภาค พบว่า ตลาดอาคารสำนักงานของเอเชียแปซิฟิกมีค่าเช่าปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุด คือ 2.5% จากความต้องการของผู้เช่าที่ยังอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง ส่วนภูมิภาคอเมริกา ค่าเช่าปรับเพิ่มขึ้นรวมเฉลี่ย 1.1% สูงกว่าการปรับเพิ่มขึ้นของค่าเช่าในไตรมาสสองที่ขยายตัว 0.5% อย่างไรก็ดี ภูมิภาคยุโรปมีค่าเช่าทรงตัวในไตรมาสที่ผ่านมา ต่างจากไตรมาสสองที่ปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2.1% สะท้อนให้เห็นความกังวลที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของภูมิภาค
ในบรรดา 81 เมืองที่โจนส์ แลง ลาซาลล์สำรวจ พบว่า ตลาดอาคารสำนักงานที่มีค่าเช่าขยายตัวสูงสุดในไตรมาสสามของปีนี้ ได้แก่ ปักกิ่ง 50.6%, จาการ์ตา 48.0%, มอสโคว์ 41.2%, เซี่ยงไฮ้ 23.7%, มะนิลา 20.9% และเซาเปาโล 20.4% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเมืองในเอเชียแปซิฟิก
ในขณะเดียวกัน มีตลาดอาคารสำนักงานในบางเมืองที่ค่าเช่าลดลงเล็กน้อยจากหลายสาเหตุ ได้แก่ ปริมาณพื้นที่อาคารสำนักงานที่มีมากเกินไป ความต้องการเช่าที่ลดลง และปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจที่อ่อนแอ เมืองที่มีค่าเช่าปรับลดลงมากที่สุดได้แก่ เม็กซิโกซิตี บรัสเซลส์ ดับลิน แวนคูเวอร์ และแคนเบอรา ซึ่งปรับลดลงระหว่าง -2% ถึง -4% ส่วนที่ฮ่องกง แม้ค่าเช่าปรับลดลงเพียงเล็กน้อย แต่นับเป็นครั้งแรกที่ค่าเช่าลดลงนับตั้งแต่เกิดวิกฤติการณ์ทางการเงินโลกเป็นต้นมา
แม้เศรษฐกิจโลกยังคงมีความผันผวน โจนส์ แลง ลาซาลล์เชื่อว่า ค่าเช่าสำนักงานเกรดเอในเมืองสำคัญๆ ทั่วโลกจะปรับตัวสูงขึ้นได้ในปี 2555 โดยส่วนใหญ่จะมีการปรับเพิ่มขึ้นคิดเป็นตัวเลขเปอร์เซ็นต์หลักเดียว ในขณะที่บางเมืองอาจปรับเพิ่มขึ้นเป็นตัวเลขเปอร์เซ็นต์สองหลัก ได้แก่ ปักกิ่ง โตเกียว ซานฟรานซิสโก และโตรอนโต ขณะเดียวกัน จะมีบางเมืองที่มีแนวโน้มค่าเช่าปรับลดลง โดยเฉพาะในยุโรปที่มีความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ ซึ่งกำลังส่งผลให้ความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจลดลง และนำไปสู่ความกังวลว่า สัญญาณการฟื้นตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่งมีให้เห็น จะมีความต่อเนื่องหรือไม่
ตลาดอาคารสำนักงานเอเชียแปซิฟิกยังแข็งแกร่ง
ในไตรมาสสามของปีนี้ ตลาดอาคารสำนักงานในเมืองส่วนใหญ่ของเอเชียแปซิฟิกปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยการสำรวจครั้งนี้ของโจนส์ แลง ลาซาลล์ครอบคลุมตลาดอาคารสำนักงานใน 27 เมืองของเอเชียแปซิฟิก ซึ่งในจำนวนนี้ พบว่ามี 18 เมืองที่มีค่าเช่าปรับเพิ่มขึ้น ที่เหลือมีทั้งที่ค่าเช่าคงตัวและที่ปรับตัวลดลงเล็กน้อย ซึ่งโดยรวมแล้ว ทั่วภูมิภาคมีค่าเช่าปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2.5% ใกล้เคียงกับไตรมาสสองที่ปรับเพิ่มขึ้น 2.4%
เมืองที่มีค่าเช่าปรับเพิ่มขึ้นมากที่สุดในเอเชียแปซิฟิก ได้แก่ จาการ์ตา ปักกิ่ง และเพิร์ธ โดยเพิ่มขึ้นอยู่ระหว่าง 10.5-13.6% เนื่องจากพื้นที่สำนักงานว่างเหลือเช่ามีปริมาณลดลง ที่ซิดนีย์ ค่าเช่าปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน (6.6%) นอกเหนือจากนั้นส่วนใหญ่ มีค่าเช่าไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก โดยปรับลดลงหรือเพิ่มขึ้นอยู่ในช่วงระหว่าง -2.3% ถึง +0.2% อาทิ กรุงเทพฯ ค่าเช่าสำนักงานเกรดเอในเขตศูนย์กลางธุรกิจปรับเพิ่มขึ้น 0.8% ซึ่งอาจเป็นสัญญาณที่บอกว่า ตลาดอาคารสำนักงานของกรุงเทพฯ ได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว
ส่วนเมืองที่ถือเป็นศูนย์กลางทางการเงินของภูมิภาค พบว่า สิงคโปร์มีค่าเช่าปรับเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย (0.6%) ในขณะที่ฮ่องกงมีอัตราค่าปรับลดลง -0.9% เนื่องจากการขยายตัวของบริษัทในกลุ่มสถาบันการเงินต่างๆ ในทั้งสองเมืองมีการชะลอตัวลง สำหรับเมืองหลักของอินเดีย ค่าเช่าปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 3% ส่วนเมืองอื่นๆ ในเอเชีย อาทิ โซล โตเกียว โอซากา โฮจิมินห์ และฮานอย ค่าเช่าปรับตัวลดลงเล็กน้อย
โดยรวมแล้ว ตลาดอาคารสำนักงานในเมืองต่างๆ ของเอเชียแปซิฟิกยังคงเป็นตลาดของเจ้าของอาคาร แม้บริษัทผู้เช่ามีทีท่ามากขึ้นว่าจะไม่ยอมรับการปรับขึ้นค่าเช่า ดังนั้น ในระยะสั้น เชื่อว่าค่าเช่าในเมืองส่วนใหญ่จะยังคงขยับเพิ่มสูงขึ้น แม้ค่าเช่าในฮ่องกงและสิงคโปร์อาจอ่อนตัวลงเนื่องจากเป็นเมืองที่มีความเสี่ยงได้รับผลกระทบจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกมากกว่าเมืองอื่นๆ ในภูมิภาค
ทั้งนี้ คาดว่ามีเพียงไม่กี่เมืองเท่านั้นที่คาดว่าจะมีค่าเช่าคงที่หรือปรับลดลงเพียงเล็กน้อย ส่วนเมืองที่คาดว่าค่าเช่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุดในปี 2555 ได้แก่ ปักกิ่งและจาการ์ตา