เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ โดยมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี, พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ในฐานะประธาน ศอ.ตช. และผู้บัญชาการเหล่าทัพ เข้าร่วมประชุมด้วย และก่อนการประชุม นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณส่วนราชการและภาคเอกชน ที่ช่วยกันขับเคลื่อนแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน
พร้อมระบุตอนหนึ่งว่า รัฐบาลมีภารกิจเร่งรัดและเร่งด่วนต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จ ดังนั้นหากการดำเนินการตามระบบมีความล่าช้าก็จำเป็นต้องใช้มาตรา 44 เพื่อปลดล็อคเงื่อนไขให้การทำงานเร็วขึ้นเพราะรัฐบาลมีเวลาจำกัด แต่ก็ยืนยันว่าจะใช้อย่างเป็นธรรม รัดกุมและถูกต้อง
นายกรัฐมนตรีระบุว่า หากพบว่ามีผู้กระทำความผิดหรือเกี่ยวข้องกับการทุจริตก็ต้องดำเนินคดีพร้อมอ้างอิงว่า การทำงานที่มีปัญหามาก เนื่องจากที่ผ่านมากระบวนการยุติธรรมถูกครอบงำ ไม่สามารถเดินหน้าได้อย่างเต็มที่และหลังประชุมแล้วเสร็จ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยรองนายกรัฐมนตรีและบุคคลสำคัญในรัฐบาล มีกำหนดการเดินทางเข้าร่วมประชุมสุดยอดเอเชีย-แอฟริกา ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย
ภายใต้หัวข้อการเสริมสร้างความร่วมมือแบบใต้ถึงใต้โดยมีเป้าหมายที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์ ระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชียและแอฟริกาขณะเดียวกันเพื่อแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความพร้อมของไทย ในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศกำลังพัฒนา ในฐานะหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจและการพัฒนา