ตำรวจใช้เวลาในการสอบปากคำนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรี เป็นเวลา 3 ชั่วโมง กรณีศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ศอฉ. ได้สั่งให้ทหารเข้ากระชับพื้นที่บริเวณแยกคอกวัว และขอคืนพื้นที่แยกราชประสงค์ ในวันที่ 10 เมษายน และ 19 พฤษภาคม ปีที่แล้ว
โดยนายอภิสิทธิ์ เปิดเผยว่า การเข้าให้ปากคำครั้งนี้เป็นการอธิบายถึงบทบาทหน้าที่ของการปฏิบัติงานของ ศอฉ. รวมถึงอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนั้น เช่น วันที่ 10 เมษายน เป็นการขอคืนพื้นที่จราจร ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้หยุดการเคลื่อนไหว ตั้งแต่ช่วงกลางคืน จากนั้นก็พยายามออกจากพื้นที่ แต่ก็ถูกล้อมไว้ จนมีชายชุดดำใช้อาวุธสงครามยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่ ซึ่งเหตการณ์ครั้งนี้ มีทั้งภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหว รวมถึงคำวินิจฉัยของศาลเกี่ยวกับการชุมนุมของ นปช. นำมาใช้เป็นหลักฐาน และมอบให้กับตำรวจ
โดยสำนวนคดีนี้เป็นการสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ตั้งแต่สมัยที่นายอภิสิทธิ์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และส่งต่อมาให้ตำรวจสอบสวนเพิ่มเติม หลังดีเอสไอ ระบุว่า มีเจ้าหน้าที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของบุคคลทั้ง 16 คน พร้อมยืนยันว่าเขาเองเป็นผู้ดูแลด้านนโยบาย ส่วนการปฏิบัติงานของ ศอฉ. เป็นหน้าที่ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะ ผอ.ศอฉ.ในขณะนั้น
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า คดีนี้เป็นคดีสำคัญที่จะทำให้ประเทศต้องเดินไปข้างหน้า และต้องทำความจริงให้ปรากฏ พร้อมกับขอร้องฝ่ายการเมืองว่าอย่าเข้ามาแทรกแซง และหยุดการชี้นำ เพราะไม่เป็นผลดีกับประเทศ รวมถึงตำรวจควรจะต้องหาพยานบุคคลทีเห็นเหตุการณ์มาสอบสวนเพิ่มเติม