สำนักข่าวอิระวดี รายงานว่า ระหว่างแถลงข่าวในกรุงเนปีดอว์เมื่อเร็วๆ นี้ นายฉ่วยหม่านเปิดเผยว่า มีบางคนกล่าวหาเขาว่าไปลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือ (MoU) เกี่ยวกับโครงกับนิวเคลียร์ ผมมั่นใจและสามารถบอกได้เลยว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง เรากับเกาหลีเหนือลงนามที่จะให้ความร่วมมือกันในด้านการทหารเท่านั้น
ทั้งนี้ นายฉ่วยหม่านเคยเป็นตัวแทนไปเจรจาลับกับรัฐบาลเกาหลีเหนือในปี 2551 และในเวลาต่อมา สำนักข่าวดีวีบีเปิดเผยหลักฐานและรายงานว่า รัฐบาลทหารพม่ากำลังพยายามจะพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธพิสัยไกล โดยมีเกาหลีเหนือให้ความช่วยเหลือ อย่างไรก็ตาม นายฉ่วยหม่านยอมรับว่า ในระหว่างเดินทางเยือนเกาหลีเหนือ เขายอมรับว่าได้เยี่ยมชมโรงงานผลิตอาวุธ เครื่องบินรบ ระบบการป้องกันประเทศของทัพอากาศเกาหลีเหนือ
"เราแค่สังเกตการณ์ว่าพวกเค้าฝึกทหารยังไง และพวกเค้าพัฒนาเทคโนโลยีทางทหารยังไง โดยมีจุดมุ่งหมายที่ต้องการพัฒนาศักยภาพกองทัพของเรา" โดยฉ่วยหม่านยังระบุว่า เทคโนโลยีทางทหารและศักยภาพของกองทัพเกาหลีเหนือนั้นพัฒนาไปมากหากเปรียบเทียบกับกองทัพพม่า
นายฉ่วยหม่าน บอกว่า สหรัฐฯในฐานะที่ได้ชื่อว่า เชี่ยวชาญด้านการโจรกรรมข้อมูลสูงน่าจะทราบดีเกี่ยวกับการเยือนเกาหลีเหนือของเขา ขณะที่ตนไปเกาหลีเหนือ ในขณะนั้นยังเป็นนายพลของกองทัพ นางฮิลลารี คลินตัน น่าจะรู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับการเดินทางว่าเขาไปทำอะไรที่นั่น บางคนอาจยังไม่กระจ่างในเรื่องการเดินทางไปเกาหลีเหนือของผม แต่รัฐบาลไม่ได้ทำอะไรผิด หรือละเมิดกฎหมาย ทั้งนี้ นางคลินตันไม่ได้สอบถามเรื่องการเยือนเกาหลีเหนือของเขา ในระหว่างที่ทั้งสองได้พบหารือกันในกรุงเนปีดอว์ที่ผ่านมา ขณะที่ในระหว่างเยือนพม่า นางฮิลลารี คลินตันระบุ พม่าจะต้องยุติเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธ