วานนี้ (27 ก.ย.2558) นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ในรัสเซีย ว่าการที่สหรัฐฯ ให้การสนับสนุนฝ่ายกบฏในซีเรีย เป็นเรื่องผิดกฏหมายและไม่ได้ผล แตกต่างกับรัสเซียที่สนับสนุนฝ่ายรัฐบาลอันชอบด้วยกฏหมาย
ทั้งนี้ นายวลาดิเมียร์ ให้สัมภาษณ์ก่อนที่จะเดินทางไปร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ในนครนิวยอร์ค สหรัฐฯ โดยเขามีกำหนดการหารือกับนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งประเด็นสำคัญที่ผู้นำสหรัฐฯ ต้องการสอบถามจากผู้นำรัสเซีย คือ รัสเซียมีเป้าหมายอย่างไรต่อการเข้าไปเสริมสร้างกำลังทหารในซีเรียและสนับสนุนฝ่ายรัฐบาลของนายบาชาร์ อัล อัสซาด ที่กำลังสู้รบกับฝ่ายกบฏ ซึ่งรวมถึงกลุ่มไอเอส
ขณะที่สหรัฐฯ ต้องการให้นายบาชาร์พ้นจากอำนาจ และได้เข้าปฏิบัติการโจมตีทางอากาศกลุ่มไอเอสมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดฝรั่งเศสในฐานะชาติพันธมิตรของสหรัฐฯ ก็ได้เข้าปฏิบัติการโจมตีทางอากาศกลุ่มไอเอสในซีเรียเป็นครั้งแรก
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลรัสเซียประกาศยอมรับว่า ได้ส่งทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ ทั้งฝูงเครื่องบินรบไอพ่นและรถถังเข้าไปในซีเรีย แต่อ้างว่าส่งทหารเข้าไปฝึกสอนการใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ตามสัญญาซื้อขายกับรัฐบาลซีเรีย
ส่วนวานนี้ ทหารอิรักประกาศว่าได้ทำการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวกรองกับรัสเซีย รัฐบาลซีเรียและอิหร่าน เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของกลุ่มไอเอส แม้สหรัฐฯ จะยังคงกำลังทหารอเมริกันประมาณ 3,500 นาย ในฐานะผู้เชี่ยวชาญประจำการช่วยเหลือรัฐบาลอิรักต่อสู้กับกลุ่มไอเอสอยู่ รวมทั้งเป็นกำลังหลักในการโจมตีทางอากาศกลุ่มไอเอสในอิรัก เหตุการณ์ดังกล่าวตอกย้ำได้ว่าสหรัฐฯ อาจดำเนินนโยบายและยุทธศาสตร์ตกเป็นรองรัสเซีย