นาซาประเมินไฟป่าอินโดฯปีนี้เลวร้ายสุดในรอบ 15 ปี กระทบหลายจังหวัดภาคใต้ของไทย 
หมอกควันที่ปกคลุมท้องฟ้าใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เช้าวันนี้ (4 ต.ค.2558) โดยภาพมุมสูงจากยอดเขาคอหงส์ พบว่ามีหมอกควันปกคลุมอย่างหนาตาจนเกือบมองไม่เห็นเมือง ซึ่งเป็นผลมาจากหมอกควันไฟป่าจากเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ที่แผ่เข้ามาปกคลุมท้องฟ้าในหลายพื้นที่ของ จ.สงขลา ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 โดยหมอกควันยังปกคลุมหนาแน่น ทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นลดต่ำลงอยู่ประมาณ 500 เมตรและมีสภาพอากาศร้อนอบอ้าว ส่วนผู้ที่สุขภาพไม่แข็งแรงหรือผู้ป่วยโรคภูมิแม้นั้นเริ่มมีอาการระคายเคือง แสบจมูกและตา
เช่นเดียวกับที่ จ.นราธิวาส หมอกควันไฟป่าจากประเทศอินโดนีเซีย กลับมาปกคลุมกระจายไปทั่วบริเวณในพื้นที่ 13 อำเภอของ จ.นราธิวาส ทำให้เช้าวันนี้ตามท้องถนนเต็มไปด้วยหมอกควัน ผู้ใช้รถใช้ถนนต้องเพิ่มความระมัดระวังให้การสัญจร ขณะที่การวัดค่าความหนาของหมอกควันอยู่ในระดับปานกลาง ยังไม่ถึงขั้นรุนแรง
จ.ตรังและจ.กระบี่ พบหมอกควันในพื้นที่ชายฝั่งทะเล ส่งผลให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นลดต่ำลง เจ้าหน้าที่ด้านสิ่งแวดล้อมระบุว่า ขณะนี้ค่าเฉลี่ยคุณภาพอากาศยังอยู่ในระดับปานกลาง ไม่กระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ พร้อมทั้งแจ้งเตือนผู้ประกอบการเรือโดยสารให้เพิ่มความระวัดระวังในการเดินเรือและควรลดความเร็วลงเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
ด้านเจ้าหน้าที่ศูนย์อนุรักษ์สัตว์ป่าใน จ.กาลิมันตัน ของอินโดนีเซีย ปล่อยลิงอุรังอุตังจากกรงให้เข้าไปในป่าธรรมชาติ ท่ามกลางหมอกควันจากไฟป่าที่ยังลอยปกคลุมไปทั่วตอนเหนือของประเทศ ส่วนลูกลิงอุรังอุตัง 16 ตัว เจ้าหน้าที่ต้องนำไปเลี้ยงภายในอาคาร เนื่องจากลูกลิงอุรังอุตังเป็นโรคติดเชื้อเฉียบพลันของระบบหายใจ เพราะระบบภูมิคุ้มกันของลูกลิงยังต่ำมากและมีการตอบสนองไวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ฟื้นฟูอุรังอุตังซัมโบจา จ.กาลิมันตันตะวันออก ต้องอพยพลิงอุรังอุตังกว่า 200 ตัว เพื่อหนีภัยจากไฟป่า เนื่องจากลิงอุรังอุตังเริ่มล้มป่วยจำนวนมากเพราะมลภาวะทางอากาศและอาจตายได้
ก่อนหน้านี้ นักวิทยาศาสตร์จากองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา หรือ นาซา คาดว่าสถานการณ์ไฟป่าในอินโดนีเซียในปี 2558 จะเป็นครั้งที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 15 ปี หากฤดูแล้งกินเวลายาวนานกว่านี้ โดยมีแนวโน้มที่จะรุนแรงกว่าวิกฤตไฟป่าที่เกิดขึ้นในปี 2540 นอกจากนี้นาซายังประเมินว่าไฟป่าครั้งนี้จะปล่อยก๊าซเรือนกระจกประมาณ 600 ล้านตัน หรือเท่ากับปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของเยอรมนีที่ปล่อยออกมาทั้งปีอีกด้วย แม้อินโดนีเซียจะส่งเจ้าหน้าที่กว่า 20,000 คนไปช่วยดับไฟป่า แต่ก็ยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ เนื่องจากปรากฎการณ์เอลนิญโญทำให้อินโดนีเซียตกอยู่ในภาวะแห้งแล้งนานกว่าปกติ
เจ้าหน้าที่บริหารการบินของมาเลเซีย หรือ มาเลเซีย แอร์พอร์ท เบอร์ฮาด เปิดเผยว่า ทางการได้สั่งปิดรันเวย์ของสนามบิน 3 แห่ง ในเมืองสุบัง เมืองอะลอร์ เซอตาร์และเมืองอิโปห์ หลังจากที่หมอกควันจากไฟป่าบนเกาะสุมาตราเคลื่อนตัวเข้าบดบังทัศนวิสัยในการบิน ขณะที่สนามบินนานาชาติในกรุงกัวลาลัมเปอร์ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังแนะนำให้ผู้โดยสารที่ใช้บริการสายการบินต่างๆในช่วงสุดสัปดาห์นี้ตรวจสอบข้อมูลการบินอย่างละเอียดต่อไป ซึ่งปัญหาหมอกควันที่เกิดขึ้นในปี 2558 ทำให้ดัชนีมลพิษทางอากาศ หรือ เอพีไอของมาเลเซียพุ่งสูงถึง 308 ซึ่งนับเป็นอันตรายต่อสุขภาพประชาชนอย่างมาก