สายการบินรัสเซียคาด 
วานนี้ (2 พ.ย.2558) นายอเล็กซานเดอร์ สมีร์นอฟ ผู้บริหารระดับสูงของสายการบินโคกาลีมาเวีย ซึ่งเป็นผู้ให้บริการภายใต้ชื่อ "เมโทรเจท" เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวในกรุงมอสโค ถึงกรณีเครื่องบินโดยสารรัสเซียตกบนคาบสมุทรไซนายของอียิปต์ และคาดว่าผู้โดยสารและลูกเรือ 224 คนจะเสียชีวิตทั้งหมด ว่า เครื่องบินโดยสารแอร์บัส 321 เที่ยวบินเคจีแอล 9268 ไม่มีปัญหาขัดข้องทางเทคนิค และโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับเครื่องบินลำนี้ ไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดของนักบิน
นายสมีร์นอฟกล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้เครื่องบินแตกเป็นเสี่ยงกลางอากาศก่อนตกสู่พื้น เกิดจากแรงปะทะภายนอก แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม
การเปิดเผยของนายสมีร์นอฟได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากเจ้าหน้าที่รัสเซีย โดยนายอเล็กซานเดอร์ เนรัดโก หัวหน้าสำนักงานขนส่งทางอากาศรัสเซีย ระบุว่า เป็นการด่วนสรุปเกินไป ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ ที่ระบุว่า การสืบสวนถึงสาเหตุที่แน่ชัดยังคงต้องใช้เวลาอีกนาน
อย่างไรเจ้าหน้าที่รัสเซียและอียิปต์ ปฏิเสธคำกล่าวอ้างของกลุ่มไอเอสบนคาบสมุทรไซนายที่ระบุว่า เป็นผู้ยิงเครื่องบินตก แต่เชื่อว่าสาเหตุของโศกนาฏกรรมน่าจะเกิดจากปัญหาขัดข้องทางเทคนิคของเครื่องบิน ขณะที่เว็บไซต์ "ไฟล์ทเรดาร์ ทเวนตี้โฟร์" ซึ่งติดตามเครื่องบินที่ทำการบินอยู่ทั่วโลก เปิดเผยว่าได้รับข้อมูลจากเครื่องบินรัสเซีย แสดงให้เห็นว่าเครื่องบินเปลี่ยนระดับความสูงอย่างรวดเร็ว และลดความเร็วภาคพื้นดิน หรือ กราวน์ สปีด ลงอย่างต่อเนื่องก่อนสัญญานจะหายไป
มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่สายการบินโคกาลีมาเวีย ยอมรับว่าส่วนหางของเครื่องบินลำที่ตก เคยได้รับความเสียหายมาก่อนขณะกำลังบินขึ้นจากสนามบินเมื่อปี 2544 แต่ความเสียหายดังกล่าวได้รับการซ่อมแซมและไม่น่าจะใช่สาเหตุที่ทำให้เครื่องบินตก ขณะที่มีการเปิดเผยข้อมูลว่าภรรยาของนักบินผู้ช่วยให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์รัสเซียว่า สามีเคยบอกกับลูกสาวว่ารู้สึกเป็นกังวลเกี่ยวกับสภาพของเครื่องบิน
ล่าสุด เจ้าหน้าที่อียิปต์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สืบสวนได้เริ่มตรวจสอบกล่องดำ หรือกล่องบันทึกข้อมูลการบินของเครื่องบินแล้ว โดยกล่องดำดังกล่าวยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ คาดว่าการตรวจสอบจะใช้เวลานานหลายสัปดาห์