ภาคเหนือตอนล่างวิกฤต ขาดแคลนน้ำทำการเกษตร

ชลประทานจังหวัดพิษณุโลกเริ่มผันน้ำจากแม่น้ำปิงและแม่น้ำน่าน ลงสู่แม่น้ำยม เพื่อช่วยเหลือชาวนาในภาคเหนือตอนล่างที่กำลังประสบปัญหาขาดแคลนน้ำทำการเกษตร ขณะที่ชาวนาในจังหวัดพิจิตร ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อดึงน้ำในแม่น้ำยมที่เหลืออยู่น้อยไปหล่อเลี้ยงนาข้าว

ชาวนาบ้านวังเทโพ ตำบลวังจิก อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร นำท่อน้ำพลาสติกมาต่อเป็นระยะทางกว่า 50 เมตร เพื่อสูบน้ำจากแม่น้ำยมไปหล่อเลี้ยงนาข้าวที่กำลังอยู่ในระยะที่ต้องการน้ำมาก หลังแม่น้ำยม ช่วงจังหวัดพิจิตร ลดระดับลงอย่างต่อเนื่อง หลายช่วงน้ำแห้งจนสามารถเดินข้ามได้ ทำให้ชาวนากังวลว่า ภัยแล้งปีนี้จะรุนแรงกว่าทุกปี ล่าสุดโครงการชลประทานจังหวัดพิษณุโลกได้ผันน้ำจากแม่น้ำปิง ที่จังหวัดกำแพงเพชร จำนวน 130 ล้านลูกบาศก์เมตร ไปยังพื้นที่ฝั่งขวาของแม่น้ำยม ส่วนพื้นที่ฝั่งซ้ายของแม่น้ำยม ได้ผันน้ำจากแม่น้ำน่านลงสู่แม่น้ำยม ที่คลองผันน้ำชลประทาน เหนือเขื่อนนเรศวร ในอำเภอพรหมพิราม ซึ่งจะเพียงพอต่อการเพาะปลูกในพื้นที่ 400,000 ไร่ ของอำเภอกงไกรลาส จังหวัดสุโขทัย และอำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก

นายบัณฑิต อินต๊ะ ผู้อำนวยการโครงการชลประทาน จังหวัดพิษณุโลก ประเมินปัญหาขาดแคลนน้ำในจังหวัดพิจิตรว่า เกิดขึ้นเพราะขาดข้อมูลน้ำต้นทุนที่แท้จริง และผู้ใช้น้ำในพื้นที่ไม่พูดคุยกัน นอกจากนี้ยังมีปัญหาชาวบ้านสร้างฝายกั้นน้ำขนาดใหญ่ ส่งผลให้ไม่มีน้ำเหลือไปถึงพื้นที่ท้ายน้ำ พร้อมแนะให้ผู้นำชุมชนนำข้อมูลที่ถูกต้องจากชลประทานไปวางแผนเพื่อแบ่งปันการใช้น้ำในช่วงวิกฤต