หลายจังหวัดในภาคอีสานเริ่มประสบภัยแล้งแล้ว

หลายจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเริ่มประสบปัญหาสภาพอากาศแห้งแล้งเร็วกว่าทุกปี โดยที่จังหวัดศรีสะเกษ ชาวนาในอำเภอราษีไศล ซึ่งทำนาปรังทดแทนนาข้าวที่เสียหายจากน้ำท่วมเมื่อปีที่ผ่านมาต้องหาวิธีกักเก็บน้ำไว้เลี้ยงต้นข้าวเพื่อป้องกันผลผลิตที่อาจเสียหายอีกครั้งจนกว่าจะถึงฤดูเก็บเกี่ยว

ชาวนาบ้านดงแดงตำบลด่าน อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ เร่งทำคันกั้นน้ำเพื่อกักเก็บน้ำไว้ทำนาปรังที่เพิ่งเริ่มปลูก หลังลำน้ำมูลเริ่มแห้งขอดจากสภาพอากาศที่แห้งแล้งที่มาเร็วกว่าทุกปี และ ลดความเสี่ยงที่จะขาดแคลนน้ำทำนา เนื่องจากที่นาอยู่นอกเขตชลประทาน

รอน มีคุณ เจ้าของที่นารายหนึ่งบอกว่า เมื่อช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมานาข้าวที่ปลูกไว้บนพื้นที่ 15 ไร่ เสียหายจากน้ำท่วมทั้งหมด ทำให้ไม่สามารถหาเงินมาใช้หนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธกส.ที่กู้ยืมมาลงทุนกว่า 30,000บาทได้ หลังน้ำลดจึงเร่งปักดำข้าวนาปรัง ซึ่งสามารถทำได้เพียง 5 ไร่ เนื่องจากไม่มีทุน และ หวังว่า น้ำที่เหลืออยู่จะเพียงพอเลี้ยงต้นข้าวจนสามารถเก็บเกี่ยวไว้กินเองในครอบครัว และ ส่วนหนึ่งเก็บไว้เป็นเมล็ดพันธุ์ใช้ทำนาในปีต่อไปได้

ส่วนจังหวัดศรีสะเกษมีพื้นที่ปลูกข้าวได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมกว่า 50,000 ไร่ ได้รับการฟื้นฟูโดยการจ่ายเงินชดเชยจากทางจังหวัดแล้วทั้งหมด และ มีพื้นที่ทำนาปรังเพิ่มจากปีที่ผ่านมากว่า 10,000 ไร่ เป็น 30,000 ไร่ ซึ่งเป็นผลมาจากการทำนาชดเชยส่วนที่เสียหายจากน้ำท่วมประกอบกับนโยบายประกันราคาข้าวของรัฐบาลที่เป็นแรงจูงใจให้เกษตรกรทำนาปรังเพิ่มขึ้น

หลายจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเริ่มได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ทั้งที่อุบลราชธานี และ กาฬสินธุ์ เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำมูลและน้ำชีลดลงอย่างรวดเร็วต่ำกว่าตลิ่ง 4 เมตร โดยศูนย์อุทกวิทยาและบริหารน้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างกรมชลประทาน คาดการณ์ระดับน้ำในแม่มูลตอนล่างลดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อน พื้นที่ทำการเกษตรเพิ่มขึ้น ประกอบกับมีการกักเก็บน้ำไว้ใช้ตอนบน