นายจุน อาซูมิ รัฐมนตรีคลังของญี่ปุ่นแถลงข่าวร่วมกับนายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ ว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ญี่ปุ่นลดการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านมาโดยตลอดและหวังว่าในอนาคตจะลดการนำเข้าลงอีก แต่จะต้องมีการวางแผนอย่างดี โดยตอนนี้ญี่ปุ่นนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านร้อยละ 10 ของการใช้ในประเทศ
นายไกธ์เนอร์กล่าวขอบคุณญี่ปุ่น ที่ยอมลดการนำเข้าน้ำมันซึ่งจะช่วยเพิ่มแรงกดดันอิหร่านให้ยุติโครงการนิวเคลียร์ ซึ่งชาติตะวันตกเชื่อว่าเป็นการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์โดยสหรัฐกำลังทำงานอย่างใกล้ชิดกับชาติยุโรป,ญี่ปุ่น และชาติพันธมิตรทั่วโลก เพื่อเพิ่มแรงกดดันอิหร่าน
อย่างไรก็ตามสื่อมวลชนของญี่ปุ่นมองว่าท่าทีของรัฐบาลญี่ปุ่นในครั้งนี้มีเป้าหมาย เพื่อป้องกันไม่ให้ธนาคารของญี่ปุ่นถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตร เนื่องจากกฎหมายของสหรัฐจะบังคับให้ธนาคารต่างชาติต้องเลือกว่าจะทำธุรกิจกับอิหร่านหรือสหรัฐฯ ซึ่งญี่ปุ่นไม่อาจเลือกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้ เพราะญี่ปุ่นต้องพึ่งพิงการนำเข้าเชื้อเพลิงจากต่างชาติ โดยเฉพาะในโลกอาหรับ แต่ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ก็ถือเป็นประเทศคู่ค้าสำคัญ หากธนาคารของญี่ปุ่นถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตรก็จะสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวง