ลำดับเหตุการณ์คดี
18 ต.ค.2558
-พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ลงนามในคำสั่งกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ที่ 267/2558 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการ ที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จำนวน 8 นาย ได้แก่ 1) พ.ต.อ.ศิวพงษ์ พัฒน์พงศ์พานิช รอง ผบก.ป. 2)พ.ต.อ.ไพโรจน์ โรจนขจร ผกก.2 บก.ป. 3) พ.ต.อ.วสุ แสงสุกใส รอง ผกก.2 บก.ป. 4) พ.ต.ท.ธรรมวัฒน์ หิรัณยเลขา รอง ผกก.2 บก.ป. 5) พ.ต.ท.จีรวัฏฐ์ บุญวัฒนาภรณ์ สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจทางหลวง 6) พ.ต.ท.ณัทกฤช พรหมจันทร์ สารวัตรกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม 7) พ.ต.ท.พิทยา กล่ำเอม สารวัตร กลุ่มงานถวายความปลอดภัย กองบังคับการตำรวจทางหลวง 8) พ.ต.ท.สุวัฒชัย ศรีทองสุข สารวัตรกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ โดยยังไม่มีความชัดเจนถึงเหตุผลในการโยกย้าย
20 ต.ค.2558
-พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ให้สัมภาษณ์ถึงการดำเนินคดีกับผู้ถูกกล่าวหาแอบอ้างเบื้องสูงว่ามีทั้งตำรวจและพลเรือนที่มีชื่อเสียงเกี่ยวข้อง และยอมรับมีการออกหมายจับแล้ว ตำรวจมีหลักฐานว่ากลุ่มบุคคลเหล่านี้ มีพฤติกรรมแอบอ้างเบื้องสูงในการเรียกรับผลประโยชน์ แต่ยังไม่ขอเปิดเผยชื่อ
-สำนักงานตำรวจแห่งชาติแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีหมิ่นเบื้องสูงร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของทหาร โดยมี พล.ต.ท. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้ช่วย ผบ.ตร.เป็นหัวหน้า
21 ต.ค.2558
-พล.ต.ท.ศรีวราห์นำตัวผู้ต้องหา 3 คนที่ร่วมกันกระทำความผิดในคดีหมิ่นเบื้องสูง ได้แก่ 1) นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หมอดูชื่อดังและที่ปรึกษาพิเศษคณะกรรมการฝ่ายจัดงาน Bike for Mom 2) พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา สารวัตรกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) และ 3) นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ คนสนิทของนายสุริยัน มาที่ศาลทหารกรุงเทพในเวลาประมาณ 15.00 น.เพื่อขอฝากขังผัดแรก โดยทั้ง 3 คนถูกตั้งข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ฯ โดยในส่วนของ พ.ต.ต.ปรากรม ยังถูกดำเนินคดีข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในความครอบครอง, มีใช้ซึ่งวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ และตั้งวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต, ปลอมเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอมอีกด้วย
-ศาลอนุญาตให้ฝากขังผลัดแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม - 1 พฤศจิกายน 2558 และภายหลังเจ้าหน้าที่ดำเนินการสอบสวนแล้วเสร็จ ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาขึ้นรถเรือนจำไปควบคุมตัวที่เรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรี มณฑลทหารบกที่ 11
-พล.ต.ท.ศรีวราห์เปิดเผยว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 คนเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ทั้งสามคนให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนและให้การพาดพิงถึงนายตำรวจสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง 8 นายที่ถูกโยกย้ายเมื่อวันที่ 18 ต.ค. ผู้ต้องหากระทำความผิดมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 เดือนและมีความผิดมากกว่า 1 กรรมและอาจมีผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่มอีก ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบหลักฐานว่ามีความความเชื่อมโยงถึงบุคคลใดบ้าง จะมีการดำเนินคดีและออกหมายจับเพิ่มเติม
22 ต.ค.2558
-ตำรวจขยายผลค้นบ้านผู้ต้องหาโดยจุดแรกเป็นคอนโดมิเนียมในซอยพหลโยธิน 24 ห้องพักของ พ.ต.ต.ปรากรม ตำรวจอายัดรถยนต์หรูและรถจักรยานยนต์รวม 18 คัน พร้อมติดประกาศห้ามเคลื่อนย้ายหรือกระทำการใดๆกับทรัพย์สินทั้งหมด
-ตำรวจค้นห้องพักของนายสุริยัน ภายในซอยพหลโยธิน 14 หลังจากนั้นพล.ต.อ.จักรทิพย์ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ได้อายัดทรัพย์สินผู้ต้องหาไว้จำนวนหนึ่งแล้ว
24 ต.ค.2558
-ช่วงเช้ามีข่าวลือว่าในสื่อสังคมออนไลน์ว่า พ.ต.ต.ปรากรม 1 ใน 3 ผู้ต้องหาเสียชีวิตแล้วระหว่างถูกคุมขังที่เรือนจำชั่วคราว มทบ.11 แต่ยังไม่มีการยืนยัน
-15.00 น. พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเปิดเผยว่าได้รับรายงานจากกรมราชทัณฑ์ เหตุนักโทษผูกคอฆ่าตัวตายในเรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรี มทบ.11 ซึ่งได้ส่งตัวไปยังโรงพยาบาล แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงขึ้นทันที
-15.45 น. กรมราชทัณฑ์ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา ผู้ต้องหาคดี ม.112 เสียชีวิตแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ได้รับรายงานเมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.ของวันที่ 23 ต.ค.2558 แถลงการณ์ระบุว่าพ.ต.ต.ปรากรมได้พยายามฆ่าตัวตายด้วยการผูกคอ เจ้าหน้าที่ได้ช่วยเหลือและเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา ได้มีการส่งชันสูตรพลิกศพที่สถาบันนิติเวช สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง
-กรมราชทัณฑ์แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณี พ.ต.ต.ปรากรมเสียชีวิต และได้กำชับให้ดูแลผู้ต้องหาอีก 2 คน คือ นายสุริยันและนายจิรวงศ์อย่างใกล้ชิด
-สถาบันนิติเวชวิทยาระบุว่ายังไม่มีการส่งศพของ พ.ต.ต.ปรากรม มาชันสูตร
-พล.ต.อ.จักรทิพย์เปิดเผยว่าจากการตรวจค้นห้องพักภายในคอนโดมิเนียมของ พ.ต.ต.ปรากรมพบทรัพย์สินของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ที่ถูกดำเนินคดีข้อหาแอบอ้างสถาบันเบื้องสูงไปแล้วก่อนหน้านี้ รวมอยู่ด้วย
25 ต.ค.2558
-นายวิทยา สุริยะวงศ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ได้กำชับเจ้าหน้าที่ดูแลผู้ต้องขังคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง หลังมีกรณีพ.ต.ต.ปรากรมฆ่าตัวตาย และพบว่านายสุริยันป่วยด้วยโรคความดันกำเริบ สั่งแพทย์ทหารดูแลอย่างใกล้ชิด
-สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ระบุว่าได้รับการประสานงานจากตำรวจให้เข้าตรวจสอบการทำธุรกรรมของนายสุริยันและปปง.พร้อมเข้ามาตรวจสอบในวันที่ 29 ต.ค.2558
-ยังไม่มีการส่งศพ พ.ต.ต.ปรากรมมาชันสูตรที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ
26 ต.ค.2558
-พล.ต.ต.นายแพทย์พรชัย สุธีรคุณ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจยืนยันว่ายังไม่มีการส่งศพ พ.ต.ต.ปรากรมมาชันสูตร
-พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งพล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา ที่ปรึกษาสบ.10 เป็นโฆษกตร.แทน พล.ต.อ.ประวุฒิ ถาวรศิริ ซึ่งมีรายงานว่าลาพักร้อนไปต่างประเทศ
27 ต.ค.2558
-ญาติของ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภาเดินทางมารับศพไปประกอบพิธีทางศาสนาแล้ว หลังเจ้าหน้าที่ดำเนินการชันสูตร โดยไม่ได้ส่งศพไปสถาบันนิติเวช เจ้าหน้าที่เผยญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต
-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกล่าวถึงกรณีที่มีกลุ่มนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนเสนอให้ปิดเรือนจำชั่วคราว แขวงถนนนครไชยศรี ภายในมณฑลทหารบกที่ 11 ว่าเรือนจำชั่วคราวยังมีความจำเป็นเนื่องจากยังคงอยู่ในช่วงสถานการณ์พิเศษ
-ผบ.ตร.ยืนยันว่าการเปลี่ยนตัวโฆษก ตร.เป็นไปตามวาระ ไม่เกี่ยวข้องกับกระแสข่าวลือใดๆ
28 ต.ค.2558
-พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.นำทีมพนักงานสอบสวนคดีหมิ่นเบื้องสูงแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยชี้แจงว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 คนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดรวม 13 คดี ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการแอบอ้างสถาบันเบื้องสูงเพื่อขอการสนับสนุนจากเอกชนในการจัดทำสิ่งของและได้รับประโยชน์จากการกระทำดังกล่าว
29 ต.ค.2558
-พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผยว่าศาลอาญากรุงเทพใต้อนุมัติหมายจับนายศุกร์โข ตามเสรี คนสนิท พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา ในข้อหาครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน
-กรมราชทัณฑ์ชี้แจงอาการป่วยของนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ เวลาประมาณ 21.00 น. นายสุริยันมีอาการปวดศีรษะ ปวดท้องด้านขวา ท้องอืดและเวียนศีรษะ จึงส่งตัวไปรักษาในทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งพบว่ามีความดันโลหิตสูง มีภาวะไขมันพอกตับ ประกอบกับมีความเครียดและวิตกกังวล ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในโรงพยาบาลราชทัณฑ์
30 ต.ค.2558
-เจ้าหน้าที่นำใบรับรองแพทย์มาแสดงต่อศาลทหารว่า นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือ "หมอหยอง" ป่วยไม่สามารถนำตัวมาฝากขังต่อศาลได้
-เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ควบคุมตัวนายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ เลขาส่วนตัวนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือหมอหยอง ขออำนาจศาลทหารฝากขังผลัดที่ 2 ระหว่างการสอบสวนและส่งสำนวนฟ้องต่ออัยการ
4 พ.ย.2558
-พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ให้สัมภาษณ์สื่อว่าการลาออกจากราชการของ พล.ต.อ.ประวุฒิ ถาวรศิริ ที่ปรึกษาสบ.10 ซึ่งมีผลเมื่อวันที่ 29 ต.ค. ไม่น่าจะเกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ต้องหาคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง
5 พ.ย.2558
-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุอย่าเพิ่งแสดงความเห็นหากหลักฐานยังไม่ชัดเจน กรณีมีกระแสข่าวว่า มีนายทหารจำนวนมากเข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดตามมาตรา 112 แต่หากใครผิด ก็ต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมย้ำว่ายังไม่มีรายงานว่านายทหารเข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดตาม ม. 112 และยังไม่มีทหารคนใดถูกออกหมายจับแต่หากพบว่า มีทหารกระทำผิดจริงก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
7 พ.ย.2558
-พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ปฏิเสธมีนายทหารยศ พล.ต. และ พ.อ.เกี่ยวข้องกับคดีแอบอ้างสถาบันหาประโยชน์ กรณีก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์
-มีรายงานข่าว พล.ต.วิจารณ์ จดแตง ผู้อำนวยการส่วนกฎหมายและสิทธิมนุษยชน กอ.รมน. และหัวหน้าฝ่ายกฎหมายหน่วยเฉพาะกิจการข่าว คสช.ร้องทุกข์กล่าวโทษนายสุริยันและพวกเพิ่มเติมอีก 2 คดี โดยมีรายชื่อของ พ
.อ.คนหนึ่งเข้าไปเกี่ยวข้องในพฤติการณ์แอบอ้างเบื้องสูง ขอสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมสำคัญที่ได้จัดขึ้นไปแล้ว และกรณีที่เกี่ยวข้องกับโครงการใหญ่อีกโครงการหนึ่งของกองทัพ
9 พ.ย.2558
-กรมราชทัณฑ์แถลง "หมอหยอง"เสียชีวิตที่ รพ.ราชทัณฑ์ เมื่อวันที่ 7 พ.ย. เวลา 22.20 น. สาเหตุระบบหายใจล้มเหลวจากการติดเชื้อในกระแสเลือด
-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง และรมว.กลาโหม ระบุว่า ตำรวจขออนุมัติหมายจับพ.อ.คชาชาต บุญดี นายทหารที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีการกระทำผิดตามมาตรา 112 แต่มั่นใจว่า กรณีนี้จะ
ไม่ส่งผลกระทบต่อกองทัพ เพราะเป็นเรื่องส่วนบุคคล