มูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค มั่นใจศาลปกครองจะสั่งระงับขึ้นราคา NGV – LPG
ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองกลาง มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคซึ่งเป็นผู้ร้อง ระบุว่า การปรับขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวี และก๊าซแอลพีจี ของบริษัท ปตท.จำักัด (มหาชน) ไม่เป็นไปตามกลไกของตลาด และไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค โดยให้เหตุผลว่า ปตท.เป็นผู้คุมกลไกราคาตั้งแต่ขั้นตอนการจัดหา การจำหน่าย ซึ่งน่าจะควบคุมให้มีราคาที่ถูกกว่าในปัจจุบันได้
ขณะที่นายเติมชัย บุนนาค ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ราคาที่ปรับเพิ่มขึ้นเป็นไปตามกลไกราคาตลาดโลก
อย่างไรก็ตาม มูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภคระบุว่า หากศาลมีคำสั่งคุ้มครองฉุกเฉินให้ระงับการขึ้นราคาเชื้อเพลิงทั้ง 2 ชนิดไว้ก่อน ประชาชนจะสามารถฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายจากส่วนต่างของราคาก๊าซเอ็นจีวี และก๊าซแอลพีจี ที่รัฐบาลปรับขึ้นไปในวันนี้ (16 ม.ค.) ได้
ด้านนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ระบุว่า หลังจากยกเลิกการอุดหนุนราคาพลังงานแล้ว รัฐบาลจะดูแลราคาสินค้าไม่ให้กระทบต่อผู้บริโภค แต่ยอมรับว่าเป็นห่วงในกลุ่มสินค้าที่ต้องนำเข้าที่มีต้นทุนด้านพลังงานสูง
นายกิตติรัตน์เห็นว่า ผู้ผลิตยังไม่ควรปรับขึ้นราคาสินค้า แม้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น เพราะน่าจะเป็นเพียงระยะสั้น และเชื่อว่า อัตราเงินเฟ้อในปีนี้น่าจะยังอยู่ในเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ร้อยละ 3.8 เพราะราคาน้ำมันน่าจะปรับลดลงตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ประกอบกับความตึงเครียดในเขตตะวันออกกลางน่าจะคลี่คลายลงได้
ขณะที่นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เห็นด้วยกับการที่รัฐบาลเลิกการอุดหนุนราคาพลังงาน เพราะทำให้ราคาเป็นไปตามกลไกตลาด แต่รัฐบาลต้องมีมาตรการดูแลในช่วงการเปลี่ยนผ่าน เพื่อให้ประชาชนสามารถปรับตัว และได้รับผลกระทบน้อยที่สุด และควรให้ผู้ประกอบการปรับราคาตามต้นทุนที่แท้จริงด้วย