ร้านขายโคมไม่คึกคัก หลังเชียงใหม่ประกาศห้ามปล่อยโคม 5 อำเภอ หวั่นกระทบการบิน
วันนี้ (19 พ.ย.2558) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากจ.เชียงใหม่ประกาศห้ามปล่อยโคมลอยในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองเชียงใหม่ อ.หางดง อ.สารภี อ.แม่ริม และ อ.สันทราย เพื่อป้องกันผลกระทบด้านต่างๆ ในช่วงเทศกาลลอยกระทงหรืองานประเพณียี่เป็ง ส่งผลให้ร้านจำหน่ายโคมลอยใน จ.เชียงใหม่เงียบเหงา
น.ส.ณปภัช พิมมณี ผู้ค้าโคมลอยและดอกไม้ไฟ กล่าวว่า แม้จะมีการอนุโลมให้ปล่อยโคมลอยขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 90 เซนติเมตร สูงไม่เกิน 140 เซนติเมตร และมีน้ำหนักเชื้อเพลิงไม่เกิน 55 กรัม เผาไหม้ไม่เกิน 8 นาที ในช่วงหลังเวลา 21.00น.ของวันที่ 25 พ.ย.และ31 ธ.ค.ได้ ก็ไม่สามารถทำให้บรรยากาศการซื้อขายโคมลอยคึกคักเหมือนทุกปีที่ผ่านมา
“ มาตราการห้ามปล่อยโคมลอย น่าจะแจ้งล่วงหน้า 1 ปีเพื่อให้ร้านขายโคมลอยมีเวลาระบายสินค้า การมาสั่งล่วงหน้า 2-3 เดือน ทำให้ร้านขาดทุนหลายแสนบาท เพราะสินค้าขายไม่ได้”
นายปวิณ ชํานิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า สำหรับอำเภออื่นๆที่ไม่ได้ประกาศห้ามปล่อยโคมลอยก็ไม่สามารถลอยได้ทันที ซึ่งผู้จัดงานจะต้องแจ้งขออนุญาตทางจังหวัดล่วงหน้า
“การปล่อยโคมกว่าหมื่นลูกเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาของธุดงคสถานล้านนา ใน อ.สันทรายขณะนี้เลื่อนการปล่อยโคมลอยเป็นคืนวันที่ 25 พ.ย.แล้ว จากกำหนดเดิมวันที่ 21พ.ย.เพื่อให้สอดคล้องกับการประกาศของจังหวัด”
นาวาอากาศเอกวิสูธ จันทนา ผู้อำนวยการท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่และลอยกระทง มักจะมีซากโคมลอยติดที่ใบพัดเครื่องบินโดยสาร เทศกาลลอยกระทงปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เก็บซากโคมลอยในเขตการบินได้ 142 ลูก ปีนี้จึงเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังมากขึ้น โดยเพิ่มรอบความถี่ให้เจ้าหน้าที่ตรวจทางวิ่ง ทางขับ เพื่อเก็บซากโคม วันละ 10 ครั้ง
ข้อมูลจากท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ ระบุว่า ระหว่างวันที่ 24 -26 พ.ย.มีสายการบินภายในประเทศแจ้งยกเลิกเที่ยวบิน เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นจากโคมลอย รวม 72 เที่ยวบิน และเปลี่ยนแปลงเวลาบิน 29 เที่ยวบิน ขณะที่สายการบินระหว่างประเทศยกเลิกเที่ยวบินจำนวน 12 เที่ยวบิน และเปลี่ยนแปลงเวลาบิน 22 เที่ยวบิน