สภาฯ วุ่น
เปิดการประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้เพียง 1 ชั่วโมง บรรยากาศการประชุมก็เกิดความวุ่นวายขึ้น หลัง น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ ได้ลุกขึ้นทักท้วงกระบวนการในการตรวจสอบองค์ประชุมและลงมติ ในร่างพระราชบัญญัติสังคมสงเคาราะห์ โดยให้เหตุผลว่า มีการเสียบบัตรแทนกันของ ส.ส.บางคน ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ จึงขอให้มีการลงมติในร่างกฎหมายดังกล่าวใหม่อีกครั้ง และขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมการเสียบบัตรแทนกัน เพื่อดำเนินการตามข้อบังคับของสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
ขณะที่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้มีการส่งเอกสารร้องเรียนอย่างเป็นทางการ เพื่อที่จะตรวจสอบเรื่องดังกล่าว แต่ยืนยันความถูกต้องของกระบวนตรวจสอบองค์ประชุมและการลงมติ ที่เห็นชอบร่างกฎหมายดังกล่าวด้วยคะแนนเอกฉันท์ 136 เสียง แต่ น.ส.รังสิมาไม่เห็นด้วย ก่อนจะเดินเข้าไปชี้ตัวบุคคลที่เสียบบัตรแทนกัน
ทั้งนี้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์หลายคนไม่พอใจการทำหน้าที่ของประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยเห็นว่าเป็นการวินิจฉัยที่ไม่เป็นกลาง ทำให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรแสดงความพร้อมที่จะให้ทบทวนการลงมติในร่างกฎหมายฉบับนี้ใหม่ เพื่อความสงบเรียบร้อยในการประชุม ซึ่งในเรื่องนี้ ได้รับการสนับสนุนจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ที่จะให้ลงมติใหม่ และให้นำรายชื่อการลงมติ 2 ครั้ง ส่งให้ น.ส.รังสิมา เพื่อนำมาเปรียบเทียบกันและดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรต้องสั่งพักการประชุมชั่วคราว เพื่อให้วิปฝ่ายค้านและวิปรัฐบาลได้หาข้อยุติร่วมกัน
ขณะที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย นำคลิปวิดีโอมาเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า มีเครือข่ายบ่อนการพนันกระจายอยู่ทั่วกรุงเทพมหานคร มีลักษณะเป็นแฟรนไชน์ ซึ่งมี 2 เครือข่ายใหญ่ โดยมีตำรวจยศพลตำรวจเอกเกี่ยวข้องกับเครือข่ายบ่อน ยังพบว่ามีสถานบันเทิงหลายแห่งไม่มีใบอนุญาตและเปิดเกินเวลา โดยเฉพาะสถานบันเทิงย่านรัชดาภิเภก เปิดบริการจนถึงเวลา 09.00 น. ซึ่งสถานบันเทิงเหล่านี้เป็นแหล่งซื้อขายยาเสพติดของชาวต่างชาติและเยาวชน
ทั้งนี้ นายชูวิทย์ได้นำเอกสารหลักฐานและแผนที่ตั้งของบ่อนการพนันและสถานบันเทิงที่เปิดเกินเวลา ส่งไปรษณีย์ไปถึงผู้บัญชาการตำรวจนครบาลให้ดำเนินคดีแหล่งผิดกฎหมาย ขณะเดียวกัน ยังมองว่า สถานบันเทิงเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดการคอรัปชั่นจ่ายส่วยให้กับตำรวจท้องที่