ฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ทำน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก
น้ำป่าจากเทือกเขาหลวงไหลหลากเข้าพื้นที่หมู่ 8 บ้านทับน้ำเต้า ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ทำให้เส้นทางบางช่วงไม่สามารถใช้การได้ โดยเฉพาะเส้นทางสายย่อยเชื่อมระหว่างหมู่บ้านที่ถูกกระแสน้ำตัดขาด ขณะที่ถนนสายหลักถูกกระแสน้ำกัดเซาะ โดยตลอดทั้งคืนฝนตกสะสมมากกว่า 200 มิลลิเมตร ทำให้ระดับน้ำหลากมีความรุนแรงและลดลงอย่างรวดเร็ว ก่อนส่งผลกระทบใน อ.ท่าศาลา
ขณะที่ น.ส.จันทิมา ศรีนุรักษ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลกรุงชิง แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ให้เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากมีฝนตกสะสมปริมาณสูง น้ำป่าหลากลงเป็นระยะๆ รวมทั้งเพิ่มการเฝ้าระวังดินโคลนถล่ม
ที่ จ.นราธิวาส ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่ตั้งรายล้อมเทือกเขาสันกาลาคีรี คือ อ.สุคิริน, อ.แว้ง และ อ.ตากใบ ต่างได้รับผลกระทบ ขณะเดียวกันน้ำไหลลงมาสบทบกับปริมาณน้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลก ทำให้เกิดน้ำท่วมในชุมชนท่าโรงเลื่อยและชุมชนท่าประปา เขตเทศบาลเมืองสุไหงโกลก เป็นวันที่ 2 ระดับน้ำสูงประมาณ 60-80 เซนติเมตร ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 80 ครอบครัว
ส่วนพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี หลายจุดเริ่มได้รับผลกระทบจากน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ทำให้น้ำท่วมสวนยางพาราและสวนปาล์ม รวมถึงบ้านเรือนริมคลอง ล่าสุดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและฝ่ายปกครองออกตรวจสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งในพื้นที่หมู่ 3 ต.กรูด อ.กาญจนดิษฐ์ หลังได้รับอิทธิพลจากฝนที่ตกหนักในพื้นที่ ซึ่งวัดปริมาณน้ำฝนได้สูงสุดที่ 140 มิลลิเมตร
ขณะเดียวกันคลื่นลมในอ่าวไทยที่ยังคงมีกำลังแรง ทำให้เจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ดของเทศบาลนครสงขลานำธงแดงมาปักริมชายหาดอีกครั้ง เพื่อเตือนให้นักท่องเที่ยวห้ามลงเล่นน้ำทะเลเด็ดขาด ป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น