ทูตพาณิชย์เผย 5 แนวโน้มตลาดปีนี้ สื่อสังคมออนไลน์ยังแรงได้อีก

ตลาดสหรัฐกรมฯจะใช้กลยุทธ์เน้นเจาะสินค้ารายสาขา ไม่ส่งเสริมการส่งออกแบบภาพรวมเหมือนที่ผ่านมา แต่จะเน้นสินค้าที่มีศักยภาพ

นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยรายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐฯตามนโยบายการส่งเสริมและพัฒนาช่องทางการตลาดว่า ตลาดสหรัฐฯเป็นตลาดหลักที่มีสัดส่วน10 % ของปริมาณการค้าภาพรวม โดยปี 2555 คาดว่าไทยจะส่งออกสินค้าได้ในอัตราขยายตัวที่ไม่น้อยไปกว่าปี 2554 ที่มีมูลค่าสูงถึง 24,070 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ เพิ่มขึ้น 19.2% จากปีก่อน  โดยปีนี้ตลาดสหรัฐกรมฯจะใช้กลยุทธ์เน้นเจาะสินค้ารายสาขา ไม่ส่งเสริมการส่งออกแบบภาพรวมเหมือนที่ผ่านมา แต่จะเน้นสินค้าที่มีศักยภาพ อาทิ อาหาร เป็นต้น ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายบุญทรง เตริยาภิรมย์) จะเรียกประชุมทูตพาณิชย์ 65 แห่งทั่วโลก วันที่ 10 กุมภาพันธ์นี้ เพื่อมอบนโยบาย และประเมินสถานการณ์ล่าสุด

ทั้งนี้ สคร.นิวยอร์กได้รวบรวมข้อมูลช่องทางและแนวโน้มการตลาดในปี 2555 ที่จะเป็นกลยุทธ์สำคัญในการเจาะตลาดสหรัฐฯในเบื้องต้นไว้น่าสนใจว่า มี 5 วิธี ดังนี้ 1. การตลาดบนโทรศัพท์มือถือ/ แท็บเล็ต(Tablets) และอุปกรณ์เคลื่อนที่อื่นๆ  2. การผสมผสานการใช้การตลาดเพื่อสังคม (Social Marketing)   3. การใช้แนวทางการตลาดแบบเก่าๆ ลดลง 4. ผู้บริโภคเป็นผู้กำหนดความคุ้มค่า และ 5. ความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้บริโภคจะสร้างความภักดีกับแบรนด์และยอดขายสินค้า (Loyalty & Sales)

“การทำตลาดไม่มีวิธีที่ตายตัว เพราะจะแตกต่างกันออกไปตามลักษณะของสินค้า การเข้าถึงผู้บริโภค หรือ สถานการณ์อื่นๆ  เป็นต้น แต่ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจะต้องรู้ว่า การทำงานด้านตลาดเป็นอย่างไร และวิธีการตลาดวิธีไหนใช้ได้ผล หรือไม่ได้ผล”นางนันทวัลย์ กล่าว

นางสมจินต์ เปล่งขำ ผอ.อาวุโส สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า  5 วิธี ที่น่าจับตามอง มีดังนี้ 1. การตลาดบนโทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์เคลื่อนที่อื่นๆ มีรายงานว่า คนอเมริกันเกินกว่า 250 ล้านคนใช้โทรศัพท์มือถือ ซึ่งมากกว่าร้อยละ 80 ของประชากรทั้งประเทศแอพพริเคชั่นบนโทรศัทท์มือถือมีการพัฒนามากขึ้น และมีกิจกรรมต่างๆ ทางการตลาดบนโทรศัพท์มือถือ ถ้าผู้ประกอบการไม่เคยทำการศึกษาการใช้เทคโนโลยีการตลาดชนิดนี้ในการทำธุรกิจ ปีนี้ต้องเริ่มใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เหล่านี้เพื่อประโยชน์ทางการตลาด

2. การผสมผสานการใช้ Social Marketing ในปี 2011 บริษัทต่างๆ ใช้ Social media เพื่อประโยชน์ทางการตลาดอย่างจริงจัง ปีนี้จะเห็นบริษัทหลายแห่งได้บูรณาการ Social Media เข้าไปในแผนการตลาดด้วย และช่วยให้บริษัทเสนอสินค้าและบริการเพื่อสนองความต้องการของลูกค้าได้ตามเป้าหมายมากขึ้น

3. การใช้แนวทางการตลาดแบบเก่าๆ ลดลง โดยภาพรวมงบประมาณด้านการตลาดได้ถูกย้ายไปใช้ในออนไลน์เป็นจำนวนมากและวิธีการตลาดแบบเก่าๆ ได้ลดลง การทำการตลาดทางอินเตอร์เน็ตสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าของตนด้วยต้นทุนที่ใช้ในการโฆษณาต่ำกว่าการตลาดแบบเก่าและง่ายต่อการวัดผล  4. ผู้บริโภคเป็นผู้กำหนดความคุ้มค่า  เศรษฐกิจในปัจจุบันนี้ ผู้บริโภคได้ระวังการใช้จ่ายเงินของตนเองและจะใช้จ่ายในการซื้อสินค้าที่ตนเองคิดว่ามีความคุ้มค่า ผู้บริโภคจะทำการค้นหาสินค้าที่คุ้มค่ากับเงินที่ตนเองจะต้องจ่าย โดยถ้าไม่คุ้มค่าจะไม่ซื้อสินค้านั้นๆ 

และ 5. ความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้บริโภคจะสร้างความภักดีกับแบรนด์และยอดขายสินค้าผู้บริโภคต้องการความรู้สึกว่า ตนมีความสำคัญต่อบริษัทและพนักงาน และจะประเมินว่าบริษัทให้ความสนใจต่อเขามากเพียงใด ในอดีตลูกค้าซื้อสินค้าเพราะความสะดวก ปัจจุบันคุณต้องทำให้ผู้บริโภคได้รับความพอใจในสินค้าและบริการ ถึงแม้ว่าสินค้าของคุณจะมีราคาแพงกว่าเล็กน้อย ในช่วงเศรษฐกิจซบเซาผู้บริโภคก็ยังคงใช้สินค้าของคุณอยู่