นายกฯ ลงพื้นที่ตรวจแผนบริหารจัดการน้ำที่เขื่อนสิริกิต์

นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่เพื่อตรวจแผนบริหารจัดการน้ำที่เขื่อนสิริกิต์ ซึ่งเป็นต้นแบบของการจัดการบริหารน้ำในเขื่อนทั่วประเทศ

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่เพื่อตรวจแผนบริหารจัดการน้ำ พร้อมคณะเป็นวันแรกที่ เขื่อนสิริกิต์ อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้ย้ำถึงการประชุมแผนบริหารจัดการน้ำร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า พื้นที่ต้นน้ำถือเป็นหัวใจสำคัญในการแก้ไขปัญหา โดยต้องการให้มีแผนปลูกป่าที่ชัดเจนรวมถึงการปลูกหญ้าแฝกเพื่อทำเป็นพื้นที่ชะลอน้ำ โดยยึดโครงการพระราชดำริเป็นต้นแบบ นอกจากนี้ยังต้องปรับแผนพยากรณ์การเตือนภัยไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอย อย่างเช่นอำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และหลังจากนี้ จะนำต้นแบบการบริหารน้ำของเขื่อนสิริกิต์ เพื่อนำไปใช้กับปรับการจัดการบริหารน้ำในเขื่อนทั้ง 12 เขื่อนทั่วประเทศ
 
ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการน้ำทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงเทคโนโลยี ได้รายงานการคาดการณ์ว่าน้ำปีนี้จะมีมากกว่าปี 2554 โดยประเมินว่าจะมีไต้ฝุ่น 27 ลูก พายุโซนร้อน 3-4 ลูก ทำให้การระบายน้ำอาจจะยากกว่าปีก่อนเพราะระดับน้ำทะเลในปีนี้สูงกว่าปีที่แล้วถึง 15 เซนติเมตร

สำหรับมวลน้ำทั้งระบบจะอยู่ที่ประมาณ 20,000 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยจะเร่งระบายน้ำ และให้เขื่อนขนาดใหญ่ เก็บกักน้ำไว้ 5,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ทั้งแบ่งน้ำในพื้นที่แก้มลิงอีก 5,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนน้ำที่ยังคงเหลืออีก 10,000 ล้านลูกบาศก์เมตร จะไหลลงมาตามแม่น้ำ ผ่านจังหวัดต่างๆ และมาถึงกรุงเทพมหานคร ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมั่นใจว่าจะคุมสถานการณ์น้ำได้ และจะสามารถระบายลงสู่ระบบคลองลงทะเลได้ภายใน 1 เดือนครึ่ง

น.ส.ยิ่งลักษณ์ และคณะ ยังได้ตรวจการบริหารจัดการสภาพน้ำในเขื่อน และการเปิดปิดประตูระบายน้ำพร้อมรับฟังการบรรยายสรุป ซึ่งฝ่ายปฏิบัติการได้รายงานสถานการณ์น้ำในเขื่อนสิริกิติ์ที่ขณะนี้มีปริมาณน้ำอยุ่ 7,200 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 75 โดยระหว่างนี้ได้ระบายน้ำออกจากเขื่อนวันละ 49 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อให้ระดับน้ำในเขื่อนอยู่ที่ร้อยละ 45 ก่อนถึงเดือนเมษายน