สีหนาถ ยันเร่งให้ข้อมูลรัฐฯ เพื่อดันกม.การฟอกเงิน หวัง FATF ถอนบัญชีดำ

รักษาราชการแทนเลขาธิการ ป.ป.ง. ยืนยัน จะเร่งให้ข้อมูลรัฐบาลเพื่อพลักดันร่างกฎหมายเกี่ยวกับการฟอกเงิน และการสนับสนุนก่อการร้ายให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว เพื่อให้ FATF ถอนประเทศไทย ออกจากประเทศกลุ่มเสี่ยงของการสนับสนุนการฟอกเงิน

พ.ต.อ.สีหนาถ ประยูรรัตน์ รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ป.ป.ง.ชี้แจงกรณีไทยถูกขึ้นบัญชีดำเป็นประเทศที่ไม่ปฏิบัติตาม มาตรฐานระหว่างประเทศว่าด้วยการสกัดการฟอกเงิน จาก FATF เบื้องต้น พ.ต.อ.สีหนาถ บอกว่า ไทยไม่ได้ถูกขึ้นบัญชีดำ แต่เป็นเพียงการจัดให้ประเทศไทยอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะสนับสนุนการฟอกเงินของกลุ่มก่อการร้าย เนื่องจากประเทศไทยยังไม่มีกฏหมายว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการฟอกเงิน และกฏหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อร้ายที่มีหลักการสอดคล้องกับมาตราฐานสากลของกลุ่มประเทศ FATF

สำหรับประเทศไทยที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงดังกล่าว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการทำธุรกรรมทางการเงินระหว่างประเทศของภาคเอกชน ทั้งการโอนเงิน และการขอข้อมูลทางธุรกิจระหว่างประเทศอาจทำได้ช้าลง เนื่องจากต้องใช้เวลาในการตรวจสอบความถูกต้องมากขึ้น และส่งผลให้มีค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้น

ส่วนแนวทางการแก้ไขให้ประเทศไทยพ้นจากสภาพกลุ่มเสี่ยง จะต้องมีการเร่งพิจารณาร่างกฎหมายเกี่ยวกับการฟอกเงิน และการสนับสนุนก่อการร้ายให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว แต่การพิจารณาออกกฏหมายของไทยต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญของประเทศไทย ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณา และเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี
 
ทั้งนี้พ.ต.อ.สีหนาถ ยืนยันว่าการที่ FATF จัดประเทศไทยให้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงไม่เกี่ยวข้องกับเหตุระเบิด 3 จุด ในซอยสุขุมวิท 71 ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นเพียงเหตุบังเอิญพร้อมขออย่านำกรณีทั้ง 2 มาเชื่อมโยงกัน