จนท.ปะทะชาวเขมรลักลอบตัดไม้พะยูงฝั่งไทย ทำให้คนร้ายเสียชีวิต 2 ราย
ไม้พะยูงมูลค่านับสิบล้านบาทเป็นของกลางที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติน้ำตกคลองแก้ว ตำบลบ่อพลอย อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด ยึดไว้ หลังปะทะเข้ากับกลุ่มผู้ลักลอบตัดไม้ชาวกัมพูชา ขณะกำลังลักลอบตัดโค่นและแปรรูปไม้พะยูงในเขตไทย
นายอนันต์ พิมูลมุข หัวหน้าชุดลาดตระเวนเจ้าพนักงานพิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติน้ำตกคลองแก้ว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา ขณะกำลังลาดตระเวนตามในพื้นที่ตามปกติได้ยินเสียงเลื่อยยนต์กำลังตัดโค่นต้นไม้ในป่าเขาวังโพธิ์ ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนไทยกัมพูชาด้านหลักเขตแดนที่ 69-70ประมาณ 2 กิโลเมตร จึงนำกำลังเข้าทำการตรวจสอบพบคนร้ายกำลังใช้เลื่อยยนต์ตัดโค่นต้นพะยูงจึงสั่งให้หยุดและแสดงตัวเพื่อเข้าจับกุม แต่กลับถูกคนร้ายใช้ปืนอาก้ายิงสวนมาจึงใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้ ซึ่งหลังปะทะกันนานเกือบ 10 นาที ฝ่ายชุดลาดตระเวนจึงถอนกำลัง เนื่องจากกลุ่มผู้ลักลอบตัดไม้มีจำนวนมากกว่า
จากนั้นจึงได้ประสานไปยังนายอลงกรณ์ แอคะรัจน์ นายอำเภอบ่อไร่ พร้อมขอกำลังสนับสนุนจากชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 1 บ่อไร่ออกเดินเท้าร่วมกันตรวจสอบพื้นที่บนป่าเขาวังโพธิ์ที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านทับทิมสยาม 01 ประมาณ 7 กิโลเมตร ซึ่งหลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบไม้พะยูงถูกตัดโค่นและแปรรูปไปแล้ว 2 ต้น ส่วนอีก 1 ต้นกำลังถูกตัดเป็นท่อน ๆ โดยมูลค่าไม้พะยูงทั้งหมดนับสิบล้านบาทเพราะลำต้นมีขนาดใหญ่ โดยมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 80-100 เซนติเมตร ความยาวไม่ต่ำกว่า 30-40 เมตร
นอกจากนี้ยังพบศพผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชายชาวกัมพูชา โดยในที่เกิดเหตุพบอุปกรณ์โซ่เลื่อยยนต์ เลื่อยยนต์ ขวาน และ อุปกรณ์ที่ใช้ในการตัดโค่นจำนวนมากจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
สำหรับป่าเขาวังโพธิ์และป่าเขาเอ้ด ภายในอุทยานแห่งชาติน้ำตกคลองแก้วอยู่ติดชายแดนไทยกัมพูชา และ ยังมีไม้พะยูงอยู่เป็นจำนวนมาก จึงทำให้มีผู้ลักลอบเข้ามาตัดไม้เป็นจำนวนมาก