วันนี้ (18 ธ.ค. 2558) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ชาติสมาชิกของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ทั้ง 15 ชาติ ลงมติเป็นเอกฉันท์รับร่างมติที่เสนอโดยสหรัฐฯ และรัสเซีย มีเป้าหมายคว่ำบาตรเส้นทางการเงินของกลุ่มไอเอส พร้อมเสนอให้ประเทศต่างๆ นำมาตรการนี้ไปปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรม
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเพิ่มด้วยว่า มาตรการคว่ำบาตรประกอบด้วยการห้ามซื้อขายวัตถุโบราณจากประเทศซีเรีย การคว่ำบาตรต่อบุคคลหรือองค์กรใดที่ซื้อน้ำมันจากกลุ่มไอเอส และกลุ่มนุสรา ฟรอนท์ ซึ่งมีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับกลุ่มอัลกออีดะห์ รวมทั้งเรียกร้องให้แต่ละประเทศระงับการจ่ายเงินค่าไถ่ตัวพลเมือง ที่ถูกจับเป็นตัวประกันโดยสมาชิกของกลุ่มไอเอส
ด้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สหรัฐฯ กล่าวว่า มติครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญ แต่บททดสอบที่แท้จริงขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศสมาชิก จะนำเอามาตรการคว่ำบาตรเหล่านี้ไปปฏิบัติให้เกิดผลอย่างแท้จริงมากเพียงใด เพราะ การนำมติคว่ำบาตรที่มุ่งเป้าไปยังกลุ่มไอเอสและอัลกออีดะห์ไปปฏิบัติก่อนหน้านี้ตั้งแต่ พ.ค. 2556 ไม่ค่อยสัมฤทธิ์ผล และยังขาดการรายงานผลกลับมาสู่องค์การสหประชาชาติ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานด้วยว่า มีข้อมูลประเมินกลุ่มก่อการร้ายไอเอส พบมีรายได้จากการค้าน้ำมันในตลาดมืดปีละ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และรายได้จากการส่งออกแร่และทรัพยากรอื่นๆ อีกประมาณ 550 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี รายได้ที่เกิดขึ้นทำให้เหล่าผู้นำของกลุ่มไอเอส ใช้งบประมาณมากถึง 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน จัดซื้ออาวุธและเครื่องกระสุน ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญขององค์การสหประชาชาติประเมินว่า กลุ่มไอเอสมีนักรบต่างชาติที่เดินทางมาจาก 100 ประเทศ อยู่ในสังกัดประมาณ 22,000 คน