วันนี้ (25 ธ.ค.2558) เวลา 20.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยว่า ในวันที่ 31 ธ.ค.2558 ประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียนจะก้าวสู่การเป็นประชาคมอาเซียนอย่างเป็นทางการ ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญในการเตรียมกำลังคน ทรัพยากรมนุษย์และแรงงานมีฝีมือ เพื่อเข้าสู่ตลาดแข่งขันภายใต้วิสัยทัศน์ "คนไทยมีศักยภาพพร้อมอยู่ในประชาคมอาเซียนอย่างมีคุณภาพ" มุ่งเน้นเรื่อง "เสริมสร้างความเข้าใจ ใฝ่รู้ภาษา มุ่งพัฒนาสัมพันธ์ รู้เท่าทันเทคโนโลยี สานสามัคคีอาเซียน" ด้วยการศึกษา พร้อมกำหนดยุทธศาสตร์ 6 ด้าน ดังนี้
1.เสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับประชาคมอาเซียน
2.ยกระดับคุณภาพและสร้างโอกาสทางการศึกษา
3.ผลิตกำลังคนให้มีทักษะสอดรับกับตลาดแรงงานอาเซียน
4.พัฒนาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
5.พัฒนากลไกที่เกี่ยวข้องเพื่อรองรับการเคลื่อนย้ายและแลกเปลี่ยน
6.เสริมสร้างเครือข่ายระหว่างกันในภูมิภาค
นอกจากนี้ มีการจัดตั้งศูนย์อาเซียนศึกษา จำนวน 447 ศูนย์ทั่วประเทศ เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาสู่ความเป็นนานาชาติ ให้สอดคล้องกับโครงการพัฒนาประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการศึกษาในภูมิภาค พร้อมตั้งเป้าพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษให้กับนักเรียน-นักศึกษา ครู ผู้บริหารและกำลังคนในสถานประกอบการ
สำหรับมาตรการทางเศรษฐกิจ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า นอกจากการสร้างเสถียรภาพด้วยการรักษาความสัมพันธ์ ความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านและประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนแล้ว การขยายความร่วมมือเพื่อนบ้านและอาเซียน การรักษาตลาดเดิมและการเปิดตลาดใหม่ ก็มีความสำคัญมาก ขณะที่การเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจภายในประเทศจะต้องเพิ่มความเข้มแข็งและขีดความสามารถในการแข่งขันรอบด้าน โดยเฉพาะการสร้างนวัตกรรมใหม่ ซึ่งการเพิ่มมูลค่าสร้างนวัตกรรม เป็นการหยิบยกภูมิปัญญาท้องถิ่นนำมาสร้างสรรค์และพัฒนา สู่สินค้าและบริการของชุมชนและหมู่บ้าน เพื่อเป็นการสร้างอาชีพและกระจายรายได้ รวมถึงมีการเชื่อมโยงให้เป็นห่วงโซ่ ตั้งแต่ต้นทาง - กลางทาง - ปลายทาง ให้ถึงกัน
พล.อ.ประยุทธ์ ยังขอให้ประชาชนรักษาสุขภาพในช่วงเทศกาลปีใหม่และระมัดระวังเรื่องการเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือท่องเที่ยวพักผ่อน พร้อมระบุว่ารัฐบาลเตรียมการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนตลอดเส้นทาง โดยมีจุดพักริมทาง เส้นทางลัด-ทางเบี่ยง ป้ายเตือน สัญญาณไฟจราจร รวมถึงการตรวจระดับแอลกอฮอล์ ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการ "เมาแล้วไม่ขับ" จึงอยากให้ทุกคนมีจิตสำนึก พร้อมกันนี้ยังขอให้ประชาชนให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในการดูแลและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ด้วย