นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเตรียมเรียกสถาบันการเงินของรัฐ 6 แห่งหารือโครงการพักชำระหนี้เกษตรกรรายย่อยและผู้มีรายได้น้อยไม่เกินรายละ 500,000 บาทในวันอาทิตย์นี้ ซึ่งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ หรือ ธ.ก.ส. เตรียมเสนอ 2 แนวทางเพื่อลดผลกระทบจากโครงการนี้
แนวทางแรก คือลูกหนี้ สามารถพักชำระหนี้ 3 ปีด้วยการหยุดชำระเงินต้นแต่ต้องชำระดอกเบี้ยแต่ไม่มีสิทธิ์ขอกู้เพิ่ม เพื่อประกอบกิจการหรือทำการเกษตร โดยหากเกษตรกรเลือกแนวทางนี้จะส่งผลต่อการตั้งสำรองของธนาคารรัฐที่เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 1 แต่หากเป็นลูกหนี้เอ็นพีแอลจะชำระหนี้ไม่เกิน 3 เดือน ซึ่งจะต้องตั้งสำรองร้อยละ 2
ส่วนอีกแนวทางจะให้ลูกหนี้ชำระหนี้ปกติ โดยจะเพิ่มวงเงินกู้สำหรับลูกหนี้ที่ต้องการสินเชื่อเพิ่ม ธนาคารรัฐจะลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้กับลูกหนี้ชั้นดีร้อยละ 2 หากลูกหนี้ทั้งหมดเลือกเข้าโครงการลดดอกเบี้ยร้อยละ 2 จะกระทบรายได้ ธ.ก.ส. ลดลงประมาณ 8,000 ล้านบาท
สำหรับธนาคารเฉพาะกิจของรัฐที่จะหารือ 6 แห่ง คือ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ เอสเอ็มอีแบงก์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย และ บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย