สถานการณ์มลพิษประเทศไทยประจำปี 2558 ด้านคุณภาพอากาศ พบว่า จ.สระบุรี มีจำนวนวันที่มีมลพิษทางอากาศเกินค่ามาตรฐานมากที่สุด 150 วัน รองลงมา คือ จ.ลำปาง 89 วัน จ.สมุทรปราการ 81 วัน และกรุงเทพมหานคร 74 วัน ซึ่งฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน เป็นปัจจัยสำคัญ
นายวิจารย์ สิมาฉายา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยว่า สภาพอากาศที่แห้งแล้งในปี 2558 มาจากปรากฎการเอลนีโญ่ และเป็นไปได้ที่ปีนี้ประเทศไทยจะได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะปัญหาหมอกควันจากประเทศเพื่อนบ้าน และการเผาป่าโดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือ
สำหรับสถานการณ์ด้านคุณภาพน้ำผิวดินทั้งประเทศส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์พอใช้ แหล่งน้ำภาคเหนืออยู่ในเกณฑ์ดีกว่าภาคอื่นๆ ขณะที่แม่น้ำตาปีตอนบนคุณภาพน้ำดีที่สุด ส่วนแม่น้ำกวง ลำตะคองตอนล่าง แม่น้ำระยองตอนล่าง น้ำป่าสัก แม่น้ำลพบุรี แม่น้ำเจ้าพระยาตอนบน ยังคงมีสภาพน้ำเสื่อมโทรมต่อเนื่อง
กรมควบคุมมลพิษ ยังตรวจสอบการระบายน้ำทิ้งจากแหล่งกำเนิดมลพิษ 1,392 แห่ง พบไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย 404 แห่ง โดยกังวลว่าสถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้น อาจทำให้แหล่งน้ำตามธรรมชาติได้รับผลกระทบจากน้ำเสียเหล่านี้ ส่วนสถานการณ์ชายฝั่งทะเล พบว่า คุณภาพน้ำทะเลส่วนใหญ่พอใช้ บริเวณอ่าวไทยตอนในมีคุณภาพน้ำเสื่อมโทรมมากที่สุด
ขณะที่การจัดการขยะมูลฝอยและของเสียอันตรายพบว่า ในปี 2558 มีขยะมูลฝอยชุมชนเกิดขึ้น 26.9 ล้านตัน ได้รับการเก็บขน กำจัดถูกต้อง 8.4 ล้านตัน กำจัดไม่ถูกต้อง 7.09 ล้านตัน ส่วนของเสียอันตรายชุมชนมี 591,127 ตัน เพิ่มจากปี 2557 จำนวน 14,811 ตัน แบ่งเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ 384,233 ตัน เช่นเดียวกับขยะติดเชื้อมี 5,400 ตัน เพิ่มจากปี 2557 จำนวน 200 ตัน พบเป็นกากอุตสาหกรรม 37.4 ตัน
ขณะที่ตลอดทั้งปี 2558 เกิดเหตุฉุกเฉินและอุบัติภัยด้านมลพิษ 32 ครั้ง เกิดจากโรงงานและโกดังเก็บสารเคมีมากสุด 15 ครั้ง เหตุเกิดที่ จ.ชลบุรี มากที่สุด รวมถึงพบการลักลอบทิ้งกากของเสีย 4 ครั้ง ขนสารเคมี 1 ครั้ง