ประชุมการปรับตัวรับมือภัยพิบัติครั้งที่ 2 เน้นรัฐบาลสร้างชุมชนเข้มแข็ง
ในการประชุมได้มีการเน้นย้ำเรื่องธรรมาภิบาลในการปรับตัวให้เข้ากับสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนไป ซึ่งได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อผลักดันให้แต่ละประเทศกำหนดนโยบายและมาตรการที่เป็นรูปธรรม ในปรับตัวอย่างจริงจัง โดยต้องคำนึงถึงความเป็นธรรม และการมีส่วนร่วมของชุมชนด้วย เช่น ประเทศ
ที่พัฒนาแล้ว ที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมามากตั้งแต่การปฏิวัติอุตสาหกรรม ควรให้ความช่วยเหลือประเทศที่กำลังพัฒนา หรือ ยากจน ให้สามารถปรับตัวได้
ผู้เชี่ยวชาญจากประเทศปาปัวนิวกีนี นำเสนอว่า ปัญหาใหญ่ในปาปัวนิวกีนีขณะนี้เกิดขึ้นใกล้เคียงกับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย คือ ชุมชนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจเรื่องผลกระทบจากภาวะโลกร้อน แต่ขณะนี้ทั่วประเทศกลับกำลังได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อนอย่างต่อเนื่อง เช่น ระดับน้ำทะเลยกตัวสูงขึ้น น้ำท่วม ภัยแล้ง ดินโคลนถล่ม ไข้มาลาเรีย และโรคระบาดต่าง ๆ ระบาดรุนแรงขึ้น เพราะอากาศร้อนขึ้น เกษตรกรไม่สามารถปรับตัวให้รับมือกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้ รวมทั้ง แนวปะการังเสียหายอย่างหนักจากน้ำทะเลที่อุ่นขึ้น
รัฐบาลปาปัวนิวกีนีจึงเริ่มออกมาตรการวิเคราะห์ความเสี่ยงและผลกระทบจากภาวะโลกร้อนอย่างจริงจัง และพยายามแก้ปัญหา ด้วยการให้ความรู้และสร้างความเข้าใจให้กับชุมชน รวมทั้งพยายามเข้าไปช่วยให้ชุมชนต่าง ๆ สามารถปรับตัวให้รับมือกับภัยพิบัติที่เกิดจากภาวะโลกร้อนได้มากขึ้น โดยการสื่อสารความเสี่ยงต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างรัฐบาล องค์กรเอกชนและผู้นำท้องถิ่น