อคติทางเพศ - ศาสนาในไตรภูมิดันเต

กลายเป็นข้อถกเถียงอย่างกว้างขวางในวงการวรรณกรรมของอิตาลี เมื่อผลงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชาติอย่าง ไตรภูมิดันเต ถูกวิจารณ์จากกลุ่มสิทธิมนุษยชนว่าไม่เหมาะสมสำหรับมีอยู่ในสถาบันการศึกษา เนื่องจากอคติทางเพศ และศาสนาภายในเล่ม

ขณะหลงทางอยู่กลางป่า และสับสนกับเส้นทางของชีวิตในวัยกลางคน ดันเต ได้พบกับวิญญาณของ เวอร์จิล กวีโรมัน ผู้นำเขาไปยังดินแดนหลังความตาย ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ภูมิ คือ นรก สำหรับลงทัณฑ์คนบาป แดนชำระ สถานที่ชำระล้างวิญญาณให้บริสุทธิ์ เพื่อไปสู่ภูมิที่ 3 ซึ่งวิญญาณของผู้ประพฤติดีจะสถิตร่วมกับพระเจ้าบนสวรรค์ การเดินทางที่ผู้อ่านได้เห็นวิวัฒนาการของปรัชญาของยุคกลางที่มีต่อมุมมองด้านคุณธรรม ทำให้กวีนิพนธ์เรื่อง ดีไวน์ คอมมาดี หรือ ไตรภูมิดันเต ของ ดันเต อาลีเกียรี ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในหนังสือที่ยิ่งใหญ่ที่สุด แต่วันนี้สุดยอดวรรณกรรมจากศตวรรษที่ 14 ถูกวิจารณ์จาก Gherush92 กลุ่มเอ็นจีโอที่ปรึกษาด้านด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติว่ามีเนื้อหาไม่เหมาะสมทั้งการอคติต่อศาสนาอิสลาม, ยิว และกลุ่มคนรักเพศเดียวกัน

Gherush92 ระบุว่ากวีนิพนธ์ที่เขียนขึ้นมาตั้งแต่ 600 กว่าปีที่แล้ว มีเนื้อหากล่าวโทษศาสนาอื่นที่เป็นต้นเหตุการแบ่งแยก และทรยศต่อศาสนาคริสต์ และบรรยายภาพคนรักเพศเดียวกันถูกชำระบาปด้วยฝนแห่งเพลิง ซึ่งกลุ่ม Gherush92 มองว่าเนื้อหาของไตรภูมิดันเตเลือกปฏิบัติต่อคนที่มีความเชื่อที่แตกต่าง และเรียกร้องให้นำไตรภูมิดันเตออกจากหลักสูตรการสอนในโรงเรียน หรือติดคำเตือนเพื่อป้องกันความเข้าใจผิดของเยาวชน

การเรียกร้องดังกล่าวถูกวิจารณ์ในวงการศิลปะและการศึกษาในอิตาลีอย่างสูง โดยกล่าวว่าเป็นคำเรียกร้องที่ปราศจากความเข้าใจด้านบริบททางประวัติศาสตร์ โดยชี้ว่าเนื้อหาในไตรภูมิดันเตเป็นวรรณกรรมอุปมานิทัศน์ที่เปรียบเปรยความดีความชั่วของมนุษย์อย่างแยบยล และสมควรมีไว้สำหรับการศึกษาสืบไป

ตัวแทนของ Gherush92 กล่าวว่าคำเรียกร้องครั้งนี้ไม่ได้ต้องการให้มีการเซนเซอร์หรือแบนหนังสือยิ่งใหญ่อย่างไตรภูมิดันเต แต่ต้องการให้ผู้อ่านได้ระลึกถึงอคติทางเพศ และศาสนาในหนังสือ เพราะถึงแม้จะเป็นผลงานของผู้ได้ชื่อว่าเป็นบิดาของภาษาอิตาเลียน แต่ไม่มีศิลปะใดยิ่งใหญ่เกินกว่ารอดพ้นการถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปได้