ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

มติ กบง.เรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันอีก 60 สต./ลิตรเว้น E20-E85 กระตุ้นปชช.ใช้พลังงานทดแทน

เศรษฐกิจ
20 ม.ค. 59
14:52
237
Logo Thai PBS
มติ กบง.เรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันอีก 60 สต./ลิตรเว้น E20-E85 กระตุ้นปชช.ใช้พลังงานทดแทน
กบง.มีมติเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเกือบทุกประภท เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนใช้พลังงานทดแทนมากขึ้นหลังราคาน้ำมันปรับลดลง

วันนี้ (20 ม.ค.2559) นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ในฐานะโฆษก กระทรวงพลังงาน เปิดเผยมติการประชุมคณะกรรมการบริการนโยบายพลังงาน (กบง.) ว่า ที่ประชุมมีมติให้เรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเกือบทุกประเภทอีก 60 สตางค์ต่อลิตร ยกเว้น แก๊สโซฮอล์ E20 และ E85 หลังราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับลดลงต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลให้ระดับราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91, 95 ต่างจากน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E 20 และ E85 ประมาณลิตรละ 3 บาท จากเดิมราคาแตกต่างกันประมาณลิตรละ 2.40 บาท ส่วนสถานะกองทุนน้ำมันขณะนี้ มีเม็ดเงิน อยู่ 42,225 ล้านบาท จากนี้ไปจะมีเม็ดเงินไหลเข้าเดือนละ 1,152 ล้านบาท

นอกจากนี้มีมติให้ประกาศลอยตัวราคาก๊าซ NGV เนื่องจากประเมินว่าทิศทางระดับราคาในตลาดโลกยังมีแนวโน้มปรับลดลงต่อเนื่อง โดยสั่งการให้ ปตท. ดูแลราคาเพดานราคาขายปลีกไม่ให้เกินลิตรละ 13.50 บาทเป็นระยะเวลา 6 เดือน หากระดับราคาก๊าซ NGV เกินกว่าที่กำหนด ปตท.จะเข้ามารับภาระดูแลส่วนต่างราคาดังกล่าว โดยมีผลในวันที่ 16 ก.พ. นี้

รวมทั้งที่ประชุมได้มีการประกาศโรดแมพ ยุทธศาสตร์ ราคาก๊าซ LPG เพื่อเปิดโอกาสให้มีผู้นำเข้ามากกว่า 1 รายเนื่องจากปัจจุบันบริษัท ปตท.เป็นผู้นำเข้าเพียงรายเดียวโดยกำหนดแนวทางไว้เป็นบันได 4ขั้น คือ ให้ยกเลิกมาตรการที่ไม่เอื้อให้เกิดผู้นำเข้ารายใหม่,และให้ บริษัท ปตท.เปิดโอกาสให้ผู้นำเข้าสามารถเช่าท่าเรือ หรือคลังเก็บก๊าซ LPG ได้ ซึ่งจะมีการยกเลิกค่าขนส่งก๊าซไปตามภูมิภาคต่างๆ ด้วย

ส่วนบันไดขั้นที่ 2 เมื่อมีผู้นำเข้ามากกว่า 1 ราย สนพ.จะติดตามระบบการแข่งขันและปรับปรุงการกำหนดราคานำเข้าใหม่ เพื่อเปิดโอกาสให้มีผู้นำเข้า มากขึ้น และ บันไดขั้นที่ 3 คือให้กรมธุรกิจพลังงานพิจารณากันไปการประมูลสุทธิพันธ์นำเข้าของผู้ค้าเพื่อให้เกิดการแข่งขันและขั้นที่ 4 คือกระบวนการทั้งหมด นำไปสู่การค้าเสรีเต็มรูปแบบ ซึ่งประชาชนจะไม่ได้รับผลกระทบต่อราคาขายปลีก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง