เตรียมอายัดทรัพย์สินเภสัชกร รพ.กมลาไสย คาดเข้าข่ายร่ำรวยผิดปกติ
นพ.กิตติภูมิ จุฑาสมิท ผู้อำนวยการโรงพยาบาลภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เข้าให้ข้อมูลการเบิกจ่ายยากับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ หลังพบว่า ยาแก้หวัดที่มีส่วนผสมสารซูโดอีเฟดรีน ซึ่งสามารถนำไปผลิตยาเสพติด หายไปจากคลังยา กว่า 250,000 เม็ด และได้แจ้งความดำเนินคดีแล้ว
เมื่อวานนี้ (21 มี.ค.) การตรวจสอบพบว่ามีผู้ต้องสงสัย 1 คนเกี่ยวข้องกับการเบิกจ่ายยา ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเรียกมาสอบปากคำ แต่ล่าสุดพบว่า เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวไม่มาปฏิบัติงาน 2 วันแล้ว
ส่วนการตรวจสอบการเบิกจ่ายยาของโรงพยาบาลกมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่พบหลักฐานการโอนเงินของเภสัชกร และบัญชีธนาคาร ที่สงสัยว่าร่ำรวยผิดปกติ ขณะนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน ส่งให้ดีเอสไอและอายัดทรัพย์สินเพื่อตรวจสอบแหล่งที่มาและใช้เป็นหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงผู้รับซื้อขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ได้เข้าตรวจสอบข้อมูลการเบิกจ่ายยา จากโรงพยาบาลดอยหล่อ และโรงพยาบาลฮอด จ.เชียงใหม่
แต่ผู้บริหารโรงพยาบาลดอยหล่อ ปฎิเสธให้ข้อมูลกับดีเอสไอ ขณะที่ นพ.สาธิต กิมศิริ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลดอยหล่อ เข้าพบพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรดอยหล่อ เพื่อลงบันทึกประจำวัน กรณีเภสัชกรประจำโรงพยาบาล ลักลอบสั่งซื้อยาแก้หวัด อีกกว่า 70,000 เม็ด
ทั้งนี้ คดียาแก้หวัดหายจากโรงพยาบาลหลายแห่ง คณะกรรมการคดีพิเศษ จะประชุมร่วมกับดีเอสไอ เพื่อรับเป็นคดีพิเศษ ในวันที่ 26 มี.ค.นี้ หลังจากรับคดีแล้วเจ้าหน้าที่ดีเอสไอจะลงพื้นที่ตรวจสอบ โรงพยาบาลทั้งหมด 22 แห่ง ที่พบข้อมูลการเบิกจ่ายยามากผิดปกติ โดยส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะสถานพยาบาล 13 แห่ง คือ โรงพยาบาลรัฐ 3 แห่ง โรงพยาบาลเอกชน 1 แห่ง คลีนิก 8 แห่ง และร้านขายยา 1 แห่ง ซึ่งตรวจพบว่า เป็นแหล่งที่มาของยาซูโดอีเฟดรีนที่ยึดได้ในอ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่