ดีเอสไอเผยผลสอบคดียาซูโดฯหายผอ.รพ.ปัดเอี่ยวทุจริต
พ.ต.ท.พงษ์อินทร์ อินทร์ขาว ผู้บัญชาการสำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เปิดเผยความคืบหน้าการสอบปากคำผู้อำนวยการโรงพยาบาลและเจ้าของสถาบันทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตการลักลอบการนำยาแก้หวัดที่มีส่วนผสมของซูโดอีเฟดรีน ว่าการสอบสวน 3 วันที่ผ่านมาได้ข้อมูลหลักฐานจำนวนมาก โดยพนักงานสอบสวนจะนำข้อมูลทั้งหมดไปพิจารณาร่วมกันเพื่อวางแนวทางการสอบสวน และกำหนดประเด็นที่จะสอบเพิ่มเติม
ขณะเดียวกันได้แยกห้องสอบปากคำผู้อำนวยการโรงพยาบาลสยามราษฏร์ จ.เชียงใหม่ เนื่องจากมีการตรวจพบว่า ยาแก้หวัด ที่มีส่วนผสมของซูโดอีเฟดรีน สูตรเดี่ยวหายไปกว่า 200,000 เม็ด ซึ่งยาซูโดอีเฟดรีนสูตรเดี่ยว 1 เม็ดสามารถนำไปสกัดเป็นยาบ้าได้ 2 - 5 เม็ด
ส่วนกรณีที่แต่ละโรงพยาบาลอ้างว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับการสั่งซื้อยา ในลักษณะทุจริต หรือ การยักยอก แต่การกระทำดังกล่าวมีการปลอมข้อมูลเท็จของเภสัชกรให้เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีนั้น ทางพนักงานสอบสวนจำเป็นต้องหาหลักฐานเพิ่มเติมว่าผู้อำนวยการมีเจตนาส่อไปในทางทุจริตหรือไม่
พนักสอบสวนสวนจะเรียกเจ้าของโรงงานมิลาโน่ซึ่งเป็นโรงงานผลิตยาซูโดอีเฟดรีน และตัวแทนจำหน่ายยาเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน เพื่อขอข้อมูลการจำหน่ายยาให้กับบุคคลที่นำชื่อโรงพยาบาลมาอ้างซื้อ แต่ยาหายไปไม่ได้อยู่ที่โรงพยาบาล นอกจากนี้จากการสอบสวนยังพบข้อมูลเพิ่มว่าโรงพยาบาลเสริมงาม จ.ลำปาง มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำยาซูโดอีเฟดรีน ออกจากระบบ
ขณะที่นพ.สัมพันธ์ ก๋องเงิน เจ้าของสัมพันธ์คลินิกเวชกรรม จ.เชียงใหม่ นำเอกสารย้อนหลัง 2 ปีในการเบิกจ่ายไปยื่นต่อพนักงานสอบสวน พร้อมปฏิเสธมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายไปของยาซูโดฯ ทั้งของคลินิกและโรงพยาบาลดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ และยืนยันว่า ยาซูโดฯที่ทางคลินิกเป็นผู้สั่งซื้อได้ส่งมาถึงคลินิก ทั้งหมดส่วนกรณีที่มีการแอบอ้างนำชื่อของคลินิกสั่งซื้อยานั้นยืนยันว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นแต่อย่างใด ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ตนเองตกเป็นจำเลยสังคม
สำหรับวันนี้ (20 เม.ย.) พนักงานสอบสวนได้เรียกโรงพยาบาลนวมินทร์ 1 กรุงเทพมหานคร ,โรงพยาบาลเซ็นทรัล เมมโมเรียล , โรงพยาบาลสยามราษฎร์ จ.เชียงใหม่ ,โรงพยาบาลหนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ,โรงพยาบาลภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ , คลินิกสุพรชัย จ.ลพบุรี และสัมพันธ์คลินิก จ.เชียงใหม่ เข้าให้ปากคำ ส่วนโรงพยาบาลกมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ได้ส่งคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษร ยื่นต่อพนักงานสอบสวน