ประชาชนห่วงค่าไฟกระทบค่าครองชีพ

จากการประกาศปรับค่าโดยสาร และค่าเอฟที หรือค่าไฟฟ้าผันแปร ซึ่งจะมีผลในช่วงเดือนพฤษภาคม ประชาชนหลายคนเชื่อว่า จะได้รับผลกระทบจากปรับขึ้นอัตราค่าไฟฟ้า มากกว่าค่าโดยสาร เนื่องจากเป็นสาธารณูปโภคพื้นฐานที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวัน ขณะที่นายกรัฐมนตรีสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลประชาชน

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ยอมรับเป็นห่วงที่ประชาชนต้องแบกรับค่าครองชีพทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโดยสาร ซึ่งขณะนี้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงพลังงาน มหาดไทย และกระทรวงด้านเศรษฐกิจเข้ามาดู และหามาตรการช่วยเหลือ โดยจะดูแลกลุ่มที่ได้รับผลกระทบ และผู้มีรายได้น้อยก่อน

ส่วนการสำรวจความเห็นของประชาชนย่านสะพานใหม่ ดอนเมือง หลังเมื่อวานนี้มีมติการปรับขึ้นค่าโดยสารและอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร หรือเอฟที พบว่าประชาชนส่วนใหญ่รับได้กับการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสาร เนื่องจากมองว่าเป็นราคาที่ไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับราคาปกติ

ขณะที่ประชาชนบางราย กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการปรับขึ้นของค่ารถโดยสาร และค่าไฟฟ้า เพราะกระทบต่อค่าครองชีพที่สูงอยู่แล้วให้เพิ่มขึ้นอีก ซึ่งรัฐบาลต้องเข้ามาควบคุมดูแล โดยเฉพาะค่าไฟฟ้า ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในสาธารณูปโภคพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต โดยเฉพาะในช่วงที่มีอากาศร้อนจัดเช่นนี้

ประชาชนบางคนยังกล่าวด้วยว่า สิ่งที่จะกระทบต่อค่าครองชีพมากที่สุด คือ ราคาสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น น้ำมันพืช เนื้อสัตว์และผักสด ซึ่งถึงแม้จะปรับค่าแรงเพิ่มขึ้นเป็น 300 บาทต่อวัน แต่ยังไม่เพียงพอต่อรายจ่ายที่เพิ่มขึ้น