กรมชลประทานระบุ เกษตรกรใช้น้ำเกินแผนฯ ในช่วงฤดูร้อน
เกษตรกรโดยเฉพาะในเขตพื้นที่ทางภาคเหนือและภาคอีสานกำลังได้รับผลกระทบอย่างหนัก เนื่องจากการขาดแคลนน้ำในสภาพอากาศที่ร้อนจัด โดยล่าสุดเกิดเหตุต้นข้าวนาปรัง ของเกษตรกรในเขต อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ยืนต้นตายเพราะขาดน้ำ ส่งผลให้ต้นข้าวแคระแกรนและไม่เจริญเติบโต ทางด้าน อ.เมือง จ.ลำปาง เกษตรกรผู้ปลูกสับปะรด ต้องนำใบสับปะรดห่อหุ้มผลสับปะรดเพื่อป้องกันความร้อนจากแสงแดด
ขณะเดียวกันเขตพื้นที่ในหลายจังหวัดถูกประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ง เช่น ใน จ.พิจิตร ที่เตรียมประกาศเพิ่มอีก 2 อำเภอจากเดิมประกาศไปแล้ว 6 อำเภอ ขณะที่ศูนย์บรรเทาสาธารณะภัย จ.พิจิตร ต้องนำรถบรรทุกน้ำแจกจ่ายให้แก่ประชาชนไปแล้ว 465 เที่ยวรวมปริมาณน้ำ 3 ล้านลิตร
วิศวกรชลประทานชำนาญการ กรมชลประทาน ได้ออกรายงานสถานการณ์น้ำ ณ วันที่ 23 เม.ย. ที่ผ่านมาว่า ณ ตอนนี้มีการใช้น้ำเกินแผนจัดสรรน้ำที่วางไว้ โดยมีการนำน้ำไปใช้แล้ว 32,191 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 101 ของแผนจัดสรรน้ำ เฉพาะในลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีการนำน้ำไปใช้แล้ว 14,462 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 109 ของ แผนจัดสรรน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา สรุปแล้วมีการใช้น้ำเกินแผนที่วางไว้ 1,242 ล้านลูกบาศก์เมตร และยังพบว่า มีการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งไปแล้วกว่า 10.07 ล้านไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 101 ของแผนที่วางไว้ (แผนกำหนดไว้ 10 ล้านไร่)