พรุ่งนี้ ดีเอสไอตรวจสอบเขตปลอดภาษีสนามบินสุวรรณภูมิ กรณีสำแดงเท็จนำเข้าซูโดฯ

วันพรุ่งนี้ (2 พ.ค.) ดีเอสไอจะเข้าตรวจสอบเขตปลอดอากรที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อตรวจเอกสารการนำเข้ายาซูโดอีเฟดรีนที่มีลักษณะเข้าข่ายสำแดงเท็จ พร้อมเตรียมขอประสานความร่วมมือกับจีนและเกาหลีใต้ หลังพบว่า ยาซูโดอีเฟดรีนที่ถูกส่งมาไทยมาจากทั้ง 2 ประเทศนี้

นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ พร้อมที่ปรึกษาคดีพิเศษ ร่วมประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบการลักลอบนำยาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีน จากเกาหลีใต้และจีนเข้ามาไทย โดยเตรียมประสานความร่วมมือกับทั้ง 2 ประเทศ หลังพบว่า มีการส่งยาซูโดอีเฟดรีนจากทั้ง 2 ประเทศมาไทยซึ่งตามกฎหมายของทั้ง 2 ประเทศเป็นการส่งอย่างถูกต้อง แต่กลับมีการสำแดงเท็จในไทยเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตรวจสอบ

นอกจากนี้ยังพบว่า มีการนำเข้ายาซูโดอีเฟดรีนมาไทยเพื่อส่งต่อไปยังประเทศลาว แต่เมื่อถูกส่งมายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแล้ว ปรากฎว่า ยาดังกล่าวสูญหาย ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (3 พ.ค.) จะเข้าตรวจสอบ ที่เขตปลอดอากร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อตรวจสอบว่าการสำแดงยาซูโดอีเฟดรีน ที่เข้าข่ายการสำแดงเท็จ

ส่วนที่ จ.อุดรธานี เจ้าหน้าที่ฝ่ายเภสัชกรรมโรงพยาบาลเพ็ญ อ.เพ็ญ นำยาซูโดอีเฟดรีน จำนวน 50,368 เม็ด ส่งคืนบริษัทผู้ผลิตทางไปรษณีย์ โดยทางบริษัทผู้ผลิตได้เตรียมมารับคืนยาน้ำอีกกว่า 1,900 ขวด หลังคณะกรรมการของโรงพยาบาล มีมติให้ส่งยาคืนตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข ที่กำหนดให้ยาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีน เป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย. โดยให้ร้านขายยา คลินิกเวชกรรมและสถานพยาบาล ที่ไม่ประสงค์จะครอบครอง และไม่มีใบอนุญาตครองครองฯ ส่งยาดังกล่าวคืนแก่ผู้ผลิต-ผู้นำเข้า  

ขณะที่ตำรวจภูธรจังหวัดหนองบัวลำภู ตรวจสอบความเคลื่อนไหวทางการเงินจากบัญชีธนาคารของเภสัชกร ที่ตกเป็นผู้ต้องหา คดียาซูโดอีเฟดรีน หายไปจากโรงพยาบาลนากลาง อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู จำนวน 100,000 เม็ด นอกจากนี้ยังพบว่า เชลล์ขายยามีความเชื่อมโยงกับการซื้อขายยาซูโดอีเฟดรีนในจังหวัดอื่นด้วย จึงเตรียมรวบรวมข้อมูลส่งให้ดีเอสไอเพื่อเป็นคดีพิเศษ