รัฐบาลล้อมคอกอุบัติเหตุโรงงานอุตสาหกรรม
มรว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ รมว.อุตสาหกรรม พร้อมด้วยนายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดที่มีสารเคมีรั่วไหล ในบริษัท อดิตยา เบอร์ล่า เคมีคัลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชตะวันออก จังหวัดระยอง โดยได้เข้าไปตรวจสอบบริเวณส่วนผลิตกรดไฮโดรคลอริก และไฮโปครอไรท์ ซึ่งเป็นจุดที่มีสารเคมีรั่วไหลวานนี้ (6 พ.ค.) ซึ่งการลงพื้นที่วันนี้ (7 พ.ค.) แม้ว่าทางโรงงานจะสามารถสกัดการรั่วไหลเอาไว้ได้แล้ว แต่ในบริเวณดังกล่าวยังคงมีกลิ่นฉุนของสารเคมีฟุ้งกระจายอยู่
รมว.อุตสาหกรรม ได้สั่งกำชับให้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบ และให้ซักซ้อมแผนการแจ้งเตือนภัยให้กับประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง พร้อมทั้งกำชับเจ้าหน้าที่ว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะต้องไม่เกิดขึ้นอีก
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าได้กำชับให้ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสารเคมีรั่วอย่างเต็มที่ พร้อมกับสั่งการให้กระทรวงอุตสาหกรรม ประเมินความเสี่ยงของการปฏิบัติงานในทุกโรงงาน เพื่อทบทวนในทุกขั้นตอน เพิ่มความระมัดระวัง ทั้งตัวบุคคลากร รวมถึง การซ่อมบำรุง ในทุกไตรมาส ซึ่งจะมีผลต่อการต่อใบอนุญาตด้วย
ส่วนการรั่วไหลของสารทูโลอิน และสารคลอรีน นั้นได้รับคำชี้แจงจากผู้อำนวยการสำนักโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ว่าสารดังกล่าวเป็นสารที่ระเหยได้ง่ายในอากาศ และไม่ได้เป็นสารที่ก่อให้เกิดมะเร็ง แต่หากสูดดมเข้าไปในปริมาณมากจะส่งผลต่อเยื้อบุต่างๆ โดยแนะนำให้ประชาชนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดใช้ผ้าชุบน้ำปิดจมูกขณะออกนอกที่พักอาศัย และห้ามรองน้ำฝนมาอุปโภค บริโภค ในระยะนี้
สำหรับการช่วยเหลือผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ โรงงานบีเอสที มีผู้เสียชีวิต 12 คนนั้น ผู้เสียชีวิตจะได้รับเงินชดเชย 36 เท่าของเงินเดือน เงินปลอบขวัญ 1 ล้านบาท พนักงานผู้รับเหมาได้รับรายละ 500,000 บาท และทางมูลนิธิ กนอ. ช่วยปลอบขวัญ รายละ 20,000 บาท ขณะที่บริษัทได้ประเมินความเสียหายประมาณ 1,500-1,700 ล้านบาท