ภาคเหนือยังมีความเสี่ยงน้ำป่า-ดินโคลนถล่ม

ผู้เชี่ยวชาญกรมอุตุนิยมวิทยา อธิบายปรากฎการณ์ที่ทำให้เกิดฝนตกหนัก และน้ำป่าในระยะนี้ ซึ่งเป็นภาวะฝนตกหนักเกิดขึ้นภายหลังจากปรากฎการณ์ภัยแล้ง และยังพบว่า ในหลายพื้นที่ ดินเกิดความแห้งแล้งไม่มีพืชปกคลุม เมื่อฝนตกหนัก จึงเสี่ยงต่อการเกิดน้ำป่า และดินโคลนถล่ม

ฝนที่ตกหนักตั้งแต่ เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม จนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้ โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ มีสาเหตุจาก 2 ปัจจัยคือ จากหย่อมความกดอากาศต่ำ ซึ่งมีความชื้น เคลื่อนตัวจากทะเลอันดามันเข้ามาปกคลุมประเทศไทย มีศูนย์กลางอยู่บริเวณภาคเหนือ และอีกปัจจัยหนึ่งคือ ลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดมาจากมหาสมุทรอินเดีย ผ่านทะเลอันดามันเข้ามาปกคลุมประเทศไทย มีกำลังค่อนข้างแรง

แต่อีกประเด็น ที่ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก ในบางพื้นที่ เนื่องจากดินที่มีความแห้งก่อนหน้านี้ และไม่มีพืชปกคลุม ทำให้เมื่อเกิดฝนตกหนัก จึงไม่มีพื้นคลุมดินเพื่อชะลอการไหลของน้ำ เกิดได้บ่อยในช่วงเข้าสู่ฤดูฝน และยังมีความเสี่ยงต่อเหตุการณ์ดินโคลนถล่ม

วันพรุ่งนี้ (8 พ.ค.) สถานการณ์ฝนในภาคเหนือจะคลี่คลายลง มีฝนตกน้อยลงจากวันนี้ (7 พ.ค.) สาเหตุเพราะหย่อมความกดอากาศต่ำจะมีกำลังอ่อนลง และเคลื่อนตัวออกจากประเทศไทยในวันพรุ่งนี้ (8 พ.ค.) แต่ยังคงมีลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุม หย่อมความกดอากาศต่ำจะพัดขึ้นไปทางตอนบนของประเทศ พื้นที่ที่จะมีฝนตกมากที่สุดในวันพรุ่งนี้ (8 พ.ค.) จนถึงวันที่ 10 พฤษภาคม คือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สาเหตุเพราะมีลมตะวันออกที่พัดมาจากทะเลจีนใต้ ปะทะกับลมตะวันตกเฉียงใต้ที่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทั่วประเทศไทยจะมีฝนตกมากอีกครั้งประมาณกลางเดือนพฤษภาคมนี้