สีสันผู้ตัดสินฟุตบอลยูโร 2012
แม้ในการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2012 เป้าความสนใจของแฟนฟุตบอลทั่วโลกจะอยู่ที่นักฟุตบอลของแต่ละทีม รวมไปถึงนักฟุตบอลแต่ละคนก็ต้องพยายามฝึกซ้อมเพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมกับการแข่งขัน แต่ส่วนหนึ่งที่สำคัญที่มีหน้าที่ชี้ขาด และมีส่วนสำคัญกับผลการแข่งขันไม่น้อยไปกว่านักฟุตบอลก็คือ ผู้ตัดสิน ซึ่งกว่าที่ผู้ตัดสิน และผู้ช่วยผู้ตัดสินจำนวน 80 คนที่ถูกสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือยูฟ่า คัดเลือกให้เข้ามาทำหน้าที่ในการแข่งขันยูโร 2012 พวกเขาเหล่านี้ก็ต้องผ่านการอบรม และการฝึกซ้อม ที่ไม่น้อยไปกว่าตัวนักฟุตบอลที่ลงแข่งขัน
เริ่มตั้งแต่ก่อนหน้าศึกฟุตบอลยูโร 2012 จะเริ่มขึ้น พวกเขาเหล่านี้ก็ต้องมาเข้าคอร์สอบรมการตัดสินทั้งการตัดสินให้ลูกจุดโทษ, การให้ลูกฟรีคิก, การเป่าล้ำหน้า รวมไปถึงกระบวนการในการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินในขณะที่นักฟุตบอลบาดเจ็บในสนาม นอกจากนั้น พวกเขายังต้องเข้ารับการทดสอบสภาพความพร้อมของร่างกายเหมือนกับนักฟุตบอลอีกด้วย เพื่อที่พวกเขาจะสามารถมีสภาพร่างกายที่พร้อมสมบูรณ์สำหรับการวิ่งไปทั่วสนามในการลงทำหน้าที่ตลอดทั้ง 90 นาที
ซึ่งในแต่ละนัดพวกเขาจะต้องวิ่งไม่ต่ำกว่า 10 กิโลเมตร ซึ่งไม่น้อยหน้าไปกว่านักฟุตบอลที่แข่งขันในสนามเลย และจากการเคี่ยวเข็ญผู้ตัดสินในการแข่งขันยูโร 2012 ทำให้ตลอดการแข่งขันรอบแรกจำนวน 24 นัดปรากฏว่า จากสถิติที่ออกมาผู้ตัดสินทำหน้าที่ถูกต้องถึงร้อยละ 95.7 ซึ่งถือเป็นสถิติที่สูงมาก
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความผิดพลาดสำคัญๆ โดยเฉพาะการแข่งขันนัดระหว่าง ยูเครน เจ้าภาพ กับอังกฤษ ที่ลูกยิงของมาร์โก้ เดวิช ที่ลอยข้ามเส้นประตูไปแล้ว แต่ผู้ตัดสินกลับไม่ให้เป็นประตู ซึ่งทำให้ประเด็นเรื่องการนำเทคโนโลยีบนเส้นประตูมาใช้ถูกหยิบยกขึ้นมาอีกครั้ง และมีความเป็นไปได้ว่า คราวนี้มีโอกาสสูงมากที่สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติจะผลักดันให้มีการนำเทคโนโลยีบนเส้นประตูมาใช้ในเร็วๆ นี้ หลังจากเซปป์ แบล๊ตเตอร์ ประธานฟีฟ่าออกมาทวิตเตอร์สนับสนุนให้มีการนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้ในการช่วยในการตัดสินของผู้ตัดสิน