สายสัมพันธ์
รัฐบาลกับกองทัพแสดงให้เห็นภาพความสัมพันธ์อีกครั้งพอดีกับช่วง 1 ปี ในการทำหน้าที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยการร่วมพบหารือรับประทานร่วมกันอย่างเป็นทางการครั้งแรกระหว่างนายกรัฐมนตรี และ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ พร้อมการเดินทางไปร่วมงาน100 ปีการบินของบุพการีทหารอากาศ ร่วมบันทึกประวัติศาสตร์ก้าวสำคัญสู่วิสัยทัศน์ของกองทัพอากาศไทย
อาจไม่ใช่ความบังเอิญ แต่ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า ไม่ใช่ความพยายามที่จะสะท้อนภาพความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างรัฐบาลและกองทัพ เพราะในโอกาสที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ก้าวสำคัญของกองทัพอากาศไทย ในวันครบรอบ 100 ปีบุพาการีทหารอากาศวันนี้ ( 2 ก.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยรองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการเหล่าทัพ ได้พบปะหารือและรับประทานอาหารร่วมกันอย่างเป็นทางการครั้งแรก นับแต่เข้ารับตำแหน่งในช่วง 1 ปีที่ผ่านมานี้ สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ต่างมีภารกิจที่ไม่สอดคล้องให้ได้ร่วมโต๊ะพูดคุยกัน เว้นแต่จะลงพื้นที่สัมผัสการทำงานของทหารในการฝึกของเหล่าทัพ ตั้งแต่การฝึกใช้กำลังทางอากาศ การฝึกภาคทางทะเลของกองทัพเรือ และการฝึกภาคสนามในการฝึกร่วมผสมกับสิงคโปร์ ภายใต้รหัส "คชสีห์"
ภาพความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลและกองทัพ นับเป็นภาคที่ถูกจับตามองไม่น้อย เพราะเสภียรภาพของรัฐบาลวันนี้ ต้องเผชิญกับแรงกดดันรอบด้าน และ กระแสทางการเมืองที่พรรคฝ่ายค้านและกลุ่มมวลชนฝ่ายตรงข้ามพรรคเพื่อไทย พร้อมจะเคลื่อนไหวสั่นคลอนตลอดเวลา โดยกรณีล่าสุด คือ การขอใช้สนามบินอู่ตะเภาขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐ หรือ นาซ่า กับผลกระทบความมั่นคง แม้นายกรัฐมนตรีจะเรียกประชุมด่วนผู้บัญชาการเหล่าทัพ ระหว่างการประชุม ครม.สัญจร ชลบุรีเพื่อขอความเห็น แต่ยังมีการเปิดเผยข้อมูลจากพรรคประชาธิปัตย์ว่ามีเอกสารหนังสือลงชื่อผู้บัญชาการทหารสูงสุด แสดงความห่วงใยผลกระทบความมั่นคง
ขณะที่รัฐบาลพยายามสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับกองทัพ ผู้บัญชาการเหล่าทัพพยายามรักษาสมดุลระหว่างทหารกับการเมือง สะท้อนผ่านท่าทีของผู้นำเหล่าทัพ โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ที่ย้ำตลอดว่าไม่ยุ่งเกี่ยวการเมือง แต่ต้องดูแลไม่มีการดำเนินการใดๆ ที่จะมากระทบต่อสถาบัน พร้อมสนับสนุนการทำงานในฐานะเครื่องมือของรัฐบาล และพร้อมจะแสดงให้เห็นจากการพร้อมรับมือ หากเกิดสถานการณ์น้ำท่วมรอบใหม่
ตลอด 1 ปีของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยกับการทำหน้าที่ของ 2 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่เป็นเสมือนคนกลางประสานฝ่ายการเมืองและกองทัพเข้าด้วยกัน ดังนั้นคำว่า "ความสัมพันธ์" จึงไม่ใช่แค่รัฐบาลกับกองทัพ แต่หมายถึง รัฐมนตรีกับกองทัพ อีกด้วย และในภาวะของการประเมินผลงานช่วง 1 เดือนนี้ ก่อนปรับ ครม.เป็น ครม.ยิ่งลักษณ์ 3 เกิดกระแสของการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมหลายครั้งไม่ว่าจะด้วยกรณี นายกรัฐมนตรีหญิง จะสร้างประวัติศาสตร์ควบตำแหน่งเอง หรือ จะมอบให้ เพื่อนเตรียมทหารรุ่น10 ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ คนอื่นๆ เข้ามารับตำแหน่งแทน แต่ทั้งหมดยังคงยึดโยงกับความสัมพันธ์ระหว่างรัฐมนตรีกับพรรคเพื่อไทยหรือกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
แท็กที่เกี่ยวข้อง: