วันนี้ ( 22 เม.ย.2568) นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมฯได้ ติดตามสถานการณ์การผลิตและการค้าสุกรและเนื้อสุกร ทั้งระดับค้าส่งและค้าปลีกอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน โดยร่วมกับกรมปศุสัตว์และสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ พบว่า ปริมาณสุกรออกสู่ตลาดลดลง โดยออกสู่ตลาดเฉลี่ยวันละประมาณ 60,000 ตัว แต่ยังคงเพียงพอต่อการบริโภค

นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์
นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์
สาเหตุหลักที่ทำให้ปริมาณสุกรออกสู่ตลาดลดลง มาจากสภาพอากาศร้อนจัดตั้งแต่ปลายเดือน มี.ค.2568 ส่งผลให้สุกรโตช้า น้ำหนักเฉลี่ยก่อนเข้าฆ่าลดลง อีกทั้งยังมีการสูญเสียในระหว่างการเลี้ยงเพิ่มขึ้น ทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดลดลง
นอกจากนี้เกษตรกรยังต้องแบกรับภาระต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นจากค่าน้ำและค่าไฟฟ้า ซึ่งเพิ่มขึ้นจากความจำเป็นในการควบคุมอุณหภูมิภายในฟาร์ม เพื่อบรรเทาผลกระทบจากสภาพอากาศร้อน

สำหรับราคาประกาศสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มของสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติในสัปดาห์นี้ ยังคงทรงตัวต่อเนื่อง อยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 88 บาท โดยแนวโน้มราคาจะยังคงทรงตัวต่ออีกระยะหนึ่ง ก่อนจะเริ่มปรับลดลง เมื่อเข้าสู่ฤดูฝนที่มีสภาพอากาศเหมาะสมต่อการเลี้ยง และเป็นไปตามรอบการผลิต
กรมได้ประชุมร่วมกับห้างค้าส่งและค้าปลีก ให้ตรึงราคาจำหน่ายเนื้อสุกรชำแหละ และหากมีความจำเป็นต้องปรับราคาขึ้น จะต้องแจ้งให้กรมทราบล่วงหน้า เพื่อที่กรมจะได้เข้าหารือและเจรจากับผู้ผลิตรายใหญ่ เพื่อควบคุมต้นทุน ไม่ให้กระทบผู้บริโภค

อธิบดีกรมการค้าภายในกล่าวอีกว่า กรมฯได้มีมาตรการรองรับเพื่อช่วยเหลือผู้บริโภค โดยมีการจำหน่ายเนื้อสุกรราคาต่ำกว่าท้องตลาดในงานธงฟ้าราคาประหยัด ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภูมิภาค เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้แก่ประชาชน พร้อมทั้งเชื่อมโยงเนื้อสุกรแดงเข้าสู่โมบายธงฟ้า และงานธงฟ้าทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงเนื้อสุกรคุณภาพในราคาย่อมเยา
อ่านข่าว:
"ไข่ไก่" หน้าฟาร์ม ขึ้นแผงละ 6 บาท มีผลวันนี้ 17 เม.ย.
ปูพรมตรวจเข้ม “ยางพารา-ปาล์มน้ำมัน”ป้องพ่อค้ารายใหญ่กดรับซื้อ
ข้าวไทยทรุด ส่งออกลดฮวบ 30% ผู้ส่งออกหวั่นภาษีทรัมป์ดันราคาพุ่ง