<"">
ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวที่เนปาลพุ่งสูงกว่า 5,000 คน และรายงานตัวเลขผู้บาดเจ็บอย่างเป็นทางการอีกกว่า 10,000 คน แต่ที่น่าห่วงตอนนี้ คือพื้นที่ชนบทใกล้กับจุดศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหว ที่ทีมกู้ภัยอินเดียสำรวจพบว่าเสียหายอย่างสิ้นเชิง แม้แต่เฮลิคอปเตอร์ยังไม่มีพื้นที่ที่สามารถลงจอดได้ สะท้อนถึงภาพรวมของการกู้ภัยและช่วยเหลือของรัฐบาลเนปาลยังมีปัญหา เสียงตำหนิการทำงานที่ล่าช้าของรัฐบาลเริ่มขยายวงกว้าง ขณะที่ยาและเวชภัณฑ์ยังไม่เพียงพอรักษาผู้บาดเจ็บ
ชาวเนปาลวิ่งหนีเอาตัวรอดทันทีที่อาคารแห่งหนึ่งในเขตซุนดาราของกรุงกาฐมาณฑุถล่มลงมา หลังเกิดแผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2558 ซึ่งเป็นภาพที่กล้องวงจรปิดบันทึกเอาไว้ได้ และหลังจากนั้นก็เกิดความโกลาหลตามมาทั้งเมือง สถานการณ์ในเนปาลขณะนี้ยังคงมีปัญหาในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในโรงพยาบาลที่ต้องรองรับผู้บาดเจ็บ ซึ่งมีจำนวนมากขึ้นกว่า 3 เท่าตัว ทำให้ไม่มีแพทย์ พยาบาล และยารักษาโรคที่เพียงพอกับความต้องการ ผู้ป่วยจำนวนมากต้องนอนรอรับความช่วยเหลือเป็นเวลานาน โดยแพทย์ ระบุว่า ผู้ที่มีอาการบาดเจ็บสาหัสส่วนใหญ่จะเป็นเด็ก และคนชรา
ส่วนพื้นที่ที่อยู่ใกล้จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวยังคงถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ไม่สามารถเดินทางด้วยรถยนต์เข้าไปได้ ทำให้จำเป็นต้องใช้เฮลิคอปเตอร์ลำเลียงสิ่งของบรรเทาทุกข์เข้าไป และรับคนเจ็บออกมารักษาในโรงพยาบาล แต่เนื่องจากสภาพอากาศปิด และยังคงมีดินถล่มอยู่เป็นระยะ ทำให้ความพยายามช่วยเหลือทำได้ไม่เต็มที่ และเจ้าหน้าที่ต้องออกมาตั้งศูนย์อำนวยการปฏิบัติการอยู่นอกกรุงกาฐมาณฑุ ไปทางทิศตะวันออกประมาณ 50 กิโลเมตร
ขณะที่ทหารอิสราเอลได้ตั้งโรงพยาบาลสนามขึ้นในกรุงกาฐมาณฑุ โดยมีเจ้าหน้าที่ แพทย์ และพยาบาลหลายร้อยคน พร้อมทั้งนำยา เวชภัณฑ์ และสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปช่วยเนปาลอย่างเต็มที่เช่นกัน ล่าสุด ทีมค้นหาและกู้ภัยจากสหรัฐอเมริกา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เดินทางไปถึงสนามบินตรีภูวันในกรุงกาฐมาณฑุแล้ว โดยจะได้เร่งให้ความช่วยเหลือชาวเนปาลทันที ซึ่งขณะนี้เริ่มมีกระแสความไม่พอใจรัฐบาลเนปาลมากขึ้น เนื่องจากประชาชนไม่ได้รับความช่วยเหลืออย่างทั่วถึง และล่าช้า ซึ่งองค์การสหประชาชาติประเมินว่ามีชาวเนปาลที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนจำนวนประมาณ 1,400,000 คน
นอกจากจะมีทีมค้นหา และกู้ภัยจากนานาชาติเร่งเข้าไปให้ความช่วยเหลือชาวเนเปาลแล้ว แต่ยังไม่เพียงพอ เนื่องจากพื้นที่ความเสียหายกินบริเวณกว้าง ทำให้ชาวเนปาลอีกส่วนหนึ่งต้องใช้มือเปล่าช่วยเหลือเจ้าหน้าที่อีกทางหนึ่ง ซึ่งพวกเขาบอกว่าต้องการช่วยฟื้นฟูให้เนปาลกลับมาอยู่ในสภาพเดิมโดยเร็ว
ส่วนชาวเนปาลอีกส่วนหนึ่งต่างพากันมาต่อแถวยาว เพื่อรอขึ้นรถโดยสารอพยพออกจากกรุงกาฐมาณฑุ เนื่องจากต้องการกลับไปค้นหาญาติพี่น้องในพื้นที่ชนบทที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวเช่นเดียวกัน รวมทั้งมีกระแสข่าวลือเรื่องโรคระบาดแพร่สะพัด เนื่องจากแผ่นดินไหวครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 5,000 คนแล้วในขณะนี้
ขณะที่ชาวเนปาลอีกส่วนหนึ่งพากันไปสวดมนต์ภาวนาที่วัดสวายามภูนาท เพื่อวิงวอน และขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยเหลือเนปาล และชาวเนปาลทุกคน เนื่องจากขณะนี้เนปาลกำลังตกอยู่ในภาวะสับสนอลหม่าน และต้องการความสงบสันติ