พรรคเพื่อไทยเตรียมข้อสรุปเพื่อแถลงปิดคดี
จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยคดีการแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันที่ 13 กรกฎาคม นี้ นายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล เปิดเผยว่า ในการประชุมพรรคเพื่อไทยวันพรุ่งนี้ ได้เตรียมข้อสรุปสิ่งที่ได้ให้ปากคำต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อเตรียมแถลงปิดคดีในวันที่ 11 กรกฎมคมนี้ ส่วนข้อสรุป 2 วันที่ผ่านมานั้น เชื่อว่าผู้ถูกร้องทุกคนได้ตอบครบถ้วนในทุกประเด็นแล้ว
นายพร้อมพงษ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคพื่อไทย ระบุว่าจากการชี้แจงต่อศาล ของตัวแทนพรรค เป็นข้อมูลที่ชี้ให้เห็นว่าพรรคเพื่อไทย และรัฐบาลไม่มีการดำเนินการใดที่ต้องการมุ่งล้มล้างระบอบประชาธิปไตย หรือทำสิ่งที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งเชื่อว่ากระบวนการยุติธรรมจะไม่นำเอาความหวาดระแวง และการคาดเดาในอนาคตของฝ่ายผู้ร้องมาประกอบการพิจารณา และตัดสินคดี ซึ่งหากมีคำตัดสินที่มีผลกระทบต่อการยุบพรรค และการตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคจะไม่มีผลต่อรัฐบาล หรือนายกรัฐมนตรีที่ยังสามารถบริหารประเทศต่อไปได้
ขณะที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ออกแถลงการณ์ว่าด้วยเรื่องปัญหารัฐธรรมนูญมาตรา 68 โดยเนื้อหาเป็นรายละเอียดตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงการปกครองปี 2475 ผ่านมา 80 ปี ยังไม่มีสิ่งใดพิสูจน์ตามคำร้องว่าไทยมีระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงหริอไม่ และเน้นย้ำว่ารัฐสภาชุดนี้ไม่มีสิทธิ์จะเป็นตัวแทนประชาชนในการยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เนื่องจากรัฐสภามีที่มาจากการแก้รัฐธรรมนูญโดยไม่ชอบธรรม และสนับสนุนแนวทางผลสำรวจที่ต้องการให้ชะลอการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และร่างพระราชบัญญัติปรองดองออกไปก่อน
สวนดุสิตโพลสำรวจผู้ที่ติดตามการไต่สวนศาลรัฐธรรมนูญจำนวน 1,179 คนพบว่าร้อยละ 45 ยังไม่แน่ใจว่าการแก้ไขรัฐธรรมนุญเป็นการล้มล้างการปกครองหรือไม่ โดยมีร้อยละ 24 เชื่อว่าเป็นการล้มล้างการปกครอง และร้อยละ 29 ไม่เชื่อ
ส่วนทิศทางการเมืองไทยหลังการไต่สวนของศาลส่วนใหญ่ยังเชื่อว่าเป็นหมือนเดิมทั้งความขัดแย้ง และการเคลื่อนไหวชุมนุม โดยมีร้อยละ 26 เชื่อว่าการเมืองจะแย่ลงอีก ขณะที่มีร้อยละ 14 เห็นว่าการเมืองดีขื้น
ขณะที่เอแบคโพลสำรวจความเห็นต่อการเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองต่างๆ พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ทราบว่าเป็นการจัดเวทีเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และร่างพระราชบัญญัติปรองดอง โดยร้อยละ 77 เชื่อว่าการเคลื่อนไหวเป็นเรื่องการแย่งชิงอำนาจ และร้อยละ 74 เชื่อว่าเวทีทางการเมืองทำเพื่อประโยชน์ตัวเอง และพวกพ้อง มากกว่าเป็นการทำเพื่อประโยชน์ของคนทั้งประเทศ
