จันทบุรี, ตราด, ระนอง, พังงา, ภูเก็ต, กระบี่ ระวังน้ำป่า-โคลนถล่ม
ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังพัดปกคลุมทะเลอันดามัน และอ่าวไทย และมีลมตะวันออกพัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้มาปกคลุมประเทศไทย ทำให้มีฝนตกหนักที่ภาคตะวันออก และภาคใต้ในขณะนี้ แต่สถานการณ์การกัดเซาะชายฝั่งของประเทศไทยที่รุนแรงขึ้นจากลมมรสุมที่พัดแรง เป็นผลมาจากภาวะโลกร้อน
ด้านศาสตราจารย์ธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล หัวหน้าหน่วยศึกษาพิบัติภัยฯ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังตกอยู่ในวิกฤตการกัดเซาะชายฝั่ง ที่อาจจะไม่สามารถกอบกู้สถานการณ์ได้ทั้งหมด เพราะที่ผ่านมาหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องมุ่งแก้ปัญหาด้วยการใช้โครงสร้างมากเกินไปจนกลายเป็นการเร่งให้สถานการณ์ยิ่งรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะบริเวณแหลมตะลุมพุก จังหวัดนครศรีธรรมราช คาดว่าจะถูกกัดเซาะจนหายไปจากแผนที่ภายใน 20 ปี อาทิ เขื่อนกันคลื่นในจังหวัดนครศรีธรรมราช ชายหาดส่วนมากหายไปและเว้าเป็นรูปโค้งต่อเนื่องไปเรื่อยๆ เช่นเดียวหาดแสงจันทร์ที่จังหวัดระยอง ซึ่งทุกวันนี้ไม่เหลือสภาพหาดท่องเที่ยวให้เห็นอีกต่อไป ขณะที่หาดเจ้าหลาว จังหวัดจันทบุรี มีการเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายหาด แต่ทรายก็ยังถูกคลื่นซัดออกได้อยู่ดี พร้อมแนะนำว่า ขณะนี้ไม่สามารถแก้ปัญหาทุกจุดได้ เพราะต้องใช้งบประมาณมาก จึงควรเลือกพื้นที่ที่จะรักษาชายหาดเอาไว้ เช่น ชายหาดท่องเที่ยว ควรใช้วิธีเติมทรายให้กับหาดเพื่อแก้ปัญหา และหลีกเลี่ยงการใช้โครงสร้างต่างๆเพราะจะยิ่งทำให้ปัญหารุนแรงขึ้น